ขมับตอบ หรือขมับยุบเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อโครงสร้างใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูโทรม แก่กว่าวัย และขาดความสมดุล การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นวิธีที่ช่วยเติมเต็มบริเวณที่ยุบตัว ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟู ได้สัดส่วนมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยยกกระชับผิวบริเวณข้างแก้ม ลดความเด่นของโหนกแก้ม และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัด หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาขมับตอบที่ปลอดภัยและเห็นผลได้อย่างเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์ขมับอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ มีข้อมูลไหนที่ควรศึกษามาดูกันได้เลยครับ
ฟิลเลอร์ขมับ คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ขมับ คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid – HA) เข้าไปบริเวณขมับที่มีลักษณะยุบตัวหรือตอบลง เพื่อคืนความเต็มอิ่มให้กับใบหน้า ฟิลเลอร์ขมับไม่เพียงช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมดุลและอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ยังสามารถช่วยลดความเด่นของโหนกแก้ม และเสริมมิติให้ใบหน้าดูละมุนมากขึ้น
ปัญหาขมับตอบเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น การสูญเสียไขมันใต้ผิวเมื่ออายุมากขึ้น พันธุกรรม หรือภาวะร่างกายขาดน้ำหนัก ทำให้ใบหน้าดูโทรม แข็ง และมีลักษณะแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังช่วยให้หน้าดูอิ่มฟู ดูสดใสขึ้น และช่วยให้โครงหน้าโดยรวมมีความสมดุลมากขึ้น ฟิลเลอร์ขมับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสมดุลขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะผู้ที่มีขมับตอบชัดเจน หรือมีปัญหาร่องลึกบริเวณขมับที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า
ปัญหาขมับตอบ ขมับลึก เกิดจากอะไร ?
ปัญหาขมับตอบหรือขมับลึกเป็นภาวะที่พบได้บ่อย และเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูแข็ง กระดูกโหนกแก้มดูเด่นชัดขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุมากกว่าความเป็นจริง ซึ่งสาเหตุของขมับตอบสามารถแบ่งออกเป็นหลายปัจจัยหลัก ได้แก่
- ✅ การสูญเสียไขมันใต้ผิว (Fat Loss) เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันใต้ผิวบริเวณขมับจะค่อยๆ ลดลง ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนี้ยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าดูตอบและแข็งกว่าปกติ
- ✅ โครงสร้างกระดูกและพันธุกรรม (Bone Structure & Genetics) บางคนมีโครงสร้างกระดูกบริเวณขมับที่แคบหรือเว้าลึกโดยธรรมชาติ ทำให้ขมับดูตอบมากกว่าปกติ แม้ในวัยหนุ่มสาว
- ✅ การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว (Rapid Weight Loss) การลดน้ำหนักมากเกินไปหรือรวดเร็วเกินไป อาจทำให้ร่างกายสูญเสียไขมันและมวลกล้ามเนื้อในบางจุดของใบหน้า ส่งผลให้ขมับดูตอบและใบหน้าดูโทรม
- ✅ แรงโน้มถ่วงและความเสื่อมของเนื้อเยื่อผิว (Aging & Gravity Effect) เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างผิวและเนื้อเยื่อจะเกิดการหย่อนคล้อย ไขมันและคอลลาเจนลดลง ทำให้ขมับดูยุบลงและเกิดร่องลึก
- ✅ ภาวะขาดสารอาหารและคอลลาเจน (Nutritional Deficiency) การขาดโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการบำรุงผิว เช่น วิตามินซี วิตามินอี และไฮยาลูโรนิค แอซิด อาจทำให้ผิวบริเวณขมับขาดความยืดหยุ่นและยุบตัวลง
ปัญหาขมับตอบอาจไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง แต่สามารถทำให้ใบหน้าดูมีอายุและแข็งไม่สมดุลกับส่วนอื่นๆ ของใบหน้าได้ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ขมับเพื่อเติมเต็มและปรับรูปหน้าให้ดูละมุนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยอะไรบ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหนึ่งในหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุลขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ฟิลเลอร์ที่ใช้ประกอบด้วย Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเติมเต็มและฟื้นฟูผิวได้อย่างปลอดภัย โดยมีประโยชน์หลักดังนี้
- เติมเต็มขมับตอบ ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้น ขมับที่เว้าลึกหรือตอบทำให้ใบหน้าดูแข็ง และโหนกแก้มดูเด่นเกินไป การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มขมับให้ดูอิ่มขึ้น ลดความแข็งของใบหน้า และทำให้โครงหน้าดูละมุนขึ้น
- ลดความหย่อนคล้อย และช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ขมับที่ตอบเกิดจากการสูญเสียไขมันและคอลลาเจน ฟิลเลอร์ช่วยคืนความอิ่มฟู ลดการยุบตัวของใบหน้า และทำให้หน้าดูเด็กล
- ปรับสมดุลโครงหน้าและทำให้ใบหน้าดูมีมิติ การเติมเต็มขมับช่วยให้ใบหน้าดูสมมาตรขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาขมับแคบหรือร่องลึกจากพันธุกรรม
- ช่วยปรับโหงวเฮ้งตามความเชื่อ ตามศาสตร์โหงวเฮ้ง ขมับที่เต็มอิ่มช่วยเสริมพลังบวก ดึงดูดโชคลาภ และเพิ่มความมั่นใจ
ฟิลเลอร์ขมับเหมาะกับใคร-ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?
✅ ฟิลเลอร์ขมับเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีขมับตอบหรือเว้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีขมับลึกจากพันธุกรรมหรืออายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูแข็งและโหนกแก้มดูเด่นเกินไป
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สมดุลขึ้น ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มขมับให้ได้สัดส่วน ลดความแข็งของใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น
- ผู้ที่ต้องการลดอายุใบหน้า ฟิลเลอร์ขมับช่วยคืนความอิ่มฟูให้ใบหน้า ลดความหย่อนคล้อยและทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง ตามศาสตร์โหงวเฮ้ง ขมับเต็มอิ่มเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและโชคลาภ
❌ ฟิลเลอร์ขมับไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด เสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออกผิดปกติ
- ผู้ที่มีอาการแพ้สาร Hyaluronic Acid แม้ว่าจะพบได้น้อยมาก แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
- ผู้ที่มีภาวะติดเชื้อหรืออักเสบในบริเวณขมับ ควรรักษาให้หายก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ อันตรายไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านมาตรฐาน อย. อย่างไรก็ตาม พื้นที่บริเวณขมับเป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญจำนวนมาก หากฉีดผิดชั้นผิว หรือใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ให้ปลอดภัย
การฉีดฟิลเลอร์ขมับต้องอาศัยเทคนิคที่ถูกต้องและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากขมับเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญหลายจุด หากฉีดผิดตำแหน่งอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด หรือการอักเสบที่รุนแรง
🔹เลือกใช้เข็มปลายทู่ (Cannula) ลดโอกาสเกิดการกระทบกระเทือนเส้นเลือด ลดรอยช้ำ และกระจายตัวของฟิลเลอร์ได้ดีขึ้น
🔹ฉีดในชั้นผิวที่เหมาะสม ควรฉีดในชั้นไขมันใต้ผิวหนังเพื่อป้องกันการอุดตันของเส้นเลือด
🔹ใช้ปริมาณที่พอเหมาะ ประเมินโครงสร้างใบหน้าแต่ละบุคคล เพื่อฉีดในปริมาณที่สมดุล ไม่มากเกินไปจนทำให้ขมับโปนหรือดูผิดธรรมชาติ
🔹เลือกฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. และเหมาะสมกับบริเวณขมับ
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ควรรู้
การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหัตถการที่ช่วยเติมเต็มขมับตอบให้ดูอิ่มขึ้น แต่ในบางกรณีอาจเกิดผลข้างเคียงที่ควรรู้ไว้ล่วงหน้า ได้แก่
🔹อาการบวมและรอยช้ำ เป็นอาการที่พบได้บ่อยหลังฉีด เกิดจากการกระทบของเข็มหรือฟิลเลอร์กับเนื้อเยื่อใต้ผิว โดยปกติจะดีขึ้นภายใน 3-7 วัน
🔹รู้สึกตึงหรือไม่สบายบริเวณขมับ ฟิลเลอร์ต้องใช้เวลาปรับตัวกับเนื้อเยื่อ อาการตึงจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์
🔹ฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือไม่เรียบเนียน อาจเกิดจากการกระจายตัวของฟิลเลอร์ที่ไม่สม่ำเสมอ หรือฉีดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม หากเกิดขึ้นควรให้แพทย์ประเมิน
🔹การอุดตันของเส้นเลือด (Vascular Occlusion) ภาวะที่ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดภาวะผิวเนื้อตาย หากมีอาการปวดมากผิดปกติหรือผิวซีด ควรรีบพบแพทย์ทันที
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ vs. เติมไขมันขมับ ควรเลือกทำแบบไหนดี ?
การแก้ไขขมับตอบ สามารถทำได้ 2 วิธีหลัก คือ ฉีดฟิลเลอร์ขมับ และ เติมไขมันขมับ ทั้งสองวิธีช่วยเติมเต็มขมับให้ดูอิ่มขึ้น แต่มีความแตกต่างในหลายด้าน ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้ดังนี้
หัวข้อเปรียบเทียบ | ฉีดฟิลเลอร์ขมับ | เติมไขมันขมับ |
สารที่ใช้ | ไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) | ไขมันจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการเอง |
การเห็นผล | เห็นผลทันทีหลังฉีด | เห็นผลบางส่วนทันที แต่ต้องรอ 1-3 เดือนให้ไขมันเซ็ตตัว |
ระยะเวลาคงอยู่ | ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์ | ไขมันที่ติดถาวรสามารถอยู่ได้นานหลายปี แต่บางส่วนอาจถูกดูดซึมไป |
การบวมช้ำ | บวมน้อย ฟื้นตัวไว | อาจมีอาการบวมจากการดูดไขมันและฉีดไขมัน |
ความปลอดภัย | ฟิลเลอร์แท้ HA สามารถสลายได้เองหรือนำออกได้หากเกิดปัญหา | อาจเกิดไขมันจับตัวเป็นก้อน หรือสลายไปบางส่วน |
เหมาะกับใคร | ผู้ที่ต้องการแก้ไขขมับตอบแบบไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลเร็ว และต้องการความปลอดภัยสูง | ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร และยินดีเข้ารับกระบวนการดูดไขมัน |
ควรเลือกวิธีไหนดี ?
หากต้องการแก้ไขขมับตอบแบบรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะเห็นผลทันทีและปรับแต่งได้ง่าย แต่หากต้องการผลลัพธ์ระยะยาว และมีไขมันส่วนเกินอยู่แล้ว เติมไขมันขมับ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวและโครงหน้าของแต่ละบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี ?
การเลือก ฟิลเลอร์ขมับ ควรพิจารณา คุณสมบัติของฟิลเลอร์ ที่มีความหนืดและยืดหยุ่นเหมาะสมกับการเติมเต็มขมับ เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน และสามารถอยู่ได้นาน โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับฉีดขมับควรเป็นฟิลเลอร์ที่มี โมเลกุลขนาดใหญ่และคงตัวดี เพื่อช่วยพยุงเนื้อเยื่อและปรับโครงสร้างใบหน้าให้สมดุล
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์จากอเมริกา มีเทคโนโลยี Vycross ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์กระจายตัวดี และให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
- Restylane Lyft ฟิลเลอร์จากสวีเดน มีความหนืดสูง เหมาะสำหรับการพยุงโครงสร้างใบหน้า
- Belotero Volume ฟิลเลอร์จากเยอรมนีที่มีโครงสร้างโมเลกุลแน่น ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- Neuramis Volume ฟิลเลอร์จากเกาหลี มีความหนาแน่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน
- Revolax Sub-Q ฟิลเลอร์ที่มีความหนืดสูงจากเกาหลี เหมาะสำหรับบริเวณที่ต้องการการพยุงโครงสร้าง
- E.P.T.Q. S500 ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลแข็งแรง ไม่ไหลง่าย ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน
- Definisse Core Filler ฟิลเลอร์จากอิตาลี มีความหนืดสูง ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- Neauvia Intense ฟิลเลอร์จากอิตาลีที่มีความเข้มข้นสูง เหมาะกับการเติมเต็มขมับให้ได้สัดส่วน
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ใช้กี่ CC
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดขมับ ขึ้นอยู่กับระดับความลึกของขมับและโครงสร้างใบหน้า ของแต่ละบุคคล โดยทั่วไป ปริมาณที่ใช้เฉลี่ยอยู่ที่ข้างละ 1-2 CC หรือรวม 2-4 CC ทั้งสองข้าง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ
- ขมับตอบเล็กน้อย อาจใช้เพียง ข้างละ 1 CC
- ขมับตอบปานกลางถึงมาก อาจต้องใช้ ข้างละ 2 CC หรือมากกว่า
- ขมับที่ยุบตัวจากอายุที่เพิ่มขึ้น อาจต้องใช้ ฟิลเลอร์ร่วมกับการพยุงโครงสร้างบริเวณใกล้เคียง
แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม โดยคำนึงถึง ความสมดุลของใบหน้า และ ผลลัพธ์ที่ต้องการของคนไข้ครับ
ฟิลเลอร์ขมับราคาเท่าไหร่?
ราคาการ ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ ปริมาณ CC ที่ฉีด และความเชี่ยวชาญของแพทย์ โดยทั่วไป ราคาจะอยู่ในช่วง 10,000 – 30,000 บาทต่อ 1-2 CC ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละคลินิก
- ฟิลเลอร์ระดับพรีเมียม เช่น Juvederm, Restylane, Belotero ราคาจะอยู่ที่ 13,000 – 20,000 บาทต่อ 1 CC
- ฟิลเลอร์เกรดมาตรฐาน เช่น Neuramis, Revolax, E.P.T.Q. ราคาจะอยู่ที่ 7,000 – 12,000 บาทต่อ 1 CC
โดยปกติ แพทย์จะประเมิน ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งอาจอยู่ที่ 2-4 CC ต่อทั้งสองข้าง ดังนั้น ราคาทั้งหมดอาจเริ่มต้นที่ 20,000 – 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นครับ โดยราคานั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมของคนไข้ สามารถมาปรึกษาเพื่อรับคำแนะนำได้เลยครับ หมอดูแลเองแบบเคสต่อเคส
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยให้รูปหน้าสวยขึ้นอย่างไร?
ฟิลเลอร์ขมับ เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหา ขมับตอบ ขมับลึก หรือใบหน้าดูแข็งและโทรม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยเติมเต็มโครงสร้างของใบหน้าให้ดูสมดุลมากขึ้น ส่งผลให ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และมีมิติยิ่งขึ้น
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- ช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุล การเติมเต็มบริเวณขมับช่วยลดความเว้าแหว่งของใบหน้า ทำให้โครงหน้าดูละมุน และรับกับสัดส่วนของแก้มและกรอบหน้าได้ดีขึ้น
- ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ขมับตอบเป็นสัญญาณของอายุที่เพิ่มขึ้น การเติมฟิลเลอร์ช่วยคืนความอิ่มฟูให้ใบหน้า ทำให้ดูเด็กลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
- เพิ่มความสมดุลของโครงหน้า ใบหน้าที่มีขมับตอบอาจทำให้สัดส่วนโดยรวมดูแข็ง ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าดูสมดุล เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม
- ช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้น ขมับลึกทำให้ใบหน้าดูโทรมและเหนื่อยล้า เมื่อเติมฟิลเลอร์จะช่วยยกกระชับผิวรอบดวงตา ทำให้ดูสดชื่นขึ้น
- เห็นผลทันทีและดูเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์ขมับช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูละมุนขึ้นทันทีหลังทำ โดยไม่ต้องพักฟื้น และสามารถค่อยๆ ปรับรูปหน้าได้ตามต้องการ
ฟิลเลอร์ขมับช่วยให้ใบหน้าเปลี่ยนไปจริงหรือไม่?
✔ หากฉีดในปริมาณที่พอเหมาะและเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จะช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้นโดยไม่ผิดรูป
✔ การฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติและกลมกลืนกับใบหน้า
สรุปแล้วในการฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหัตถการที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เติมเต็มใบหน้าให้สมดุล และทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น โดยเห็นผลทันทีหลังทำ และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรมครับ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับช่วยปรับรูปหน้าให้เห็นผลทันทีไหม กี่วันเห็นผล ?
การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยปรับโครงสร้างผิวให้ดูสมดุลขึ้นแต่ ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์จะเห็นได้ชัดเจนภายใน 7-14 วัน หลังจากที่ฟิลเลอร์เริ่มเซ็ตตัวและกลมกลืนกับเนื้อเยื่อผิว
ฟิลเลอร์ขมับเห็นผลเมื่อไหร่?
- ทันทีหลังฉีด
- รูปหน้าจะดูเต็มขึ้นทันที โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาขมับตอบ ขมับลึก
- อาจมีอาการบวมเล็กน้อยใน 24-48 ชั่วโมงแรก ซึ่งเป็นอาการปกติ
- 3-7 วันหลังฉีด
- ฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่ ลดอาการบวมและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
- โครงหน้าเริ่มดูสมดุลขึ้น และขมับไม่ดูเว้าแหว่ง
- 7-14 วันหลังฉีด
- ฟิลเลอร์เซ็ตตัวเต็มที่ โครงหน้าดูสมดุลและละมุนขึ้น
- หากมีการบวมเล็กน้อยในช่วงแรก อาการจะหายไป ทำให้เห็นผลชัดเจนขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ขมับอยู่ได้กี่เดือน ?
ฟิลเลอร์ขมับ สามารถอยู่ได้นานประมาณ 8-18 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้และปัจจัยเฉพาะของแต่ละบุคคล ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลหนาแน่นสูง เช่น Juvederm Voluma, Restylane Lyft มักมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์จะค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติ การดูแลหลังฉีด เช่น การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ บุหรี่ และการออกกำลังกายหนัก สามารถช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น ทั้งนี้ หากต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานกว่าเดิม สามารถเติมฟิลเลอร์ซ้ำตามคำแนะนำของหมอได้เลยครับ
วิธีเตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและปลอดภัย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรงดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน รวมถึงวิตามินอี, น้ำมันปลา และสมุนไพรบางชนิด อย่างน้อย 3-7 วัน ก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของรอยช้ำและเลือดออกง่าย
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ควรงดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนฉีด เพราะแอลกอฮอล์และนิโคตินอาจทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการบวมและรอยช้ำ
- พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำให้มากขึ้น ร่างกายที่มีความชุ่มชื้นและพักผ่อนเพียงพอช่วยให้ฟิลเลอร์เข้ากับเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง ก่อนฉีด
- งดการออกกำลังกายหนักก่อนทำหัตถการ ไม่ควรออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมากเกินไป อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการอักเสบและบวม
- แจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบก่อนฉีด หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือกำลังรับประทานยาใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
- ล้างหน้าและทำความสะอาดผิวให้พร้อม ก่อนเข้ารับบริการ ควรล้างหน้าให้สะอาด งดใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว (AHA, BHA) เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคือง
การดูแลตัวเองหลัง ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ต้องทำยังไง ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ฟิลเลอร์เซ็ตตัวดี และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการกด นวด หรือสัมผัสบริเวณขมับ หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา อย่างน้อย 3-7 วัน เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือกระจายไม่สม่ำเสมอ
- งดออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด การออกกำลังกายหนัก, โยคะร้อน, ซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก ควรงด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของอาการบวมและรอยช้ำ
- ประคบเย็นช่วยลดบวม หากมีอาการบวมแดงหรือฟกช้ำ สามารถประคบเย็นเบา ๆ บริเวณรอบ ๆ ขมับในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมและอักเสบ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง หลังฉีด เพราะอาจส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มความเสี่ยงของรอยช้ำและอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำและนอนตะแคง ควรนอนหงายและใช้หมอนรองศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วง 1-2 คืนแรก เพื่อป้องกันไม่ให้แรงกดทับส่งผลต่อฟิลเลอร์
- ดื่มน้ำมากๆ และงดอาหารรสจัด ควรดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและอยู่ได้นานขึ้น รวมถึงงดอาหารเผ็ด อาหารหมักดอง หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดการบวม
- เลี่ยงหัตถการอื่นๆ บนใบหน้า ไม่ควรทำเลเซอร์, RF, ไฮฟู่ หรือทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อน ภายใน 2 สัปดาห์แรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าปกติ
ฟิลเลอร์ขมับห้ามนอนตะแคงกี่วัน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงอย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อป้องกันแรงกดทับที่อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือกระจายตัวผิดตำแหน่ง ฟิลเลอร์ที่ฉีดใหม่ยังไม่เซ็ตตัวเต็มที่ การนอนในท่าตะแคงอาจส่งผลต่อความสมมาตรของใบหน้า แนะนำให้นอนหงายโดยใช้หมอนรองศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดอาการบวม อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานและฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะถูกวางในชั้นที่เหมาะสมและไม่ไหลง่าย หากจำเป็นต้องนอนตะแคง ควรเลือกด้านที่ไม่ได้ฉีดหรือใช้หมอนรองคอช่วยลดแรงกดทับ เพื่อให้ฟิลเลอร์ติดแน่นและเข้าที่ได้อย่างสมบูรณ์
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ TBL Clinic ดีไหม ?
การเลือกฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ TBL Clinic มาพร้อมข้อดีที่ทำให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย ดังนี้
✅ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
- ทีมแพทย์มีประสบการณ์สูง เข้าใจกายวิภาคของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง
- ใช้เทคนิคเฉพาะตัวเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ
✅ ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ได้มาตรฐานสากล
- เลือกใช้ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) แท้ 100%
- ผ่านการรับรองจาก U.S. FDA, CE, และ TH-FDA
✅ เทคนิคฉีดเฉพาะบุคคล (Personalized Injection Technique)
- วิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียดก่อนฉีด
- ปรับรูปหน้าให้ดูสมดุลและเติมเต็มขมับให้ดูอิ่มฟู
- ลดความแข็งของใบหน้าและช่วยปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น
✅ ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที
- ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ไม่มีปัญหาฟิลเลอร์ไหลหรือเสียรูป
✅ การติดตามผลและดูแลหลังฉีดอย่างใกล้ชิด
- มีการติดตามผลหลังฉีดเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย
- ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้นานขึ้น