Revanesse Filler เป็นฟิลเลอร์สัญชาติแคนาดาที่ได้รับความนิยมในอเมริกาและยุโรป โดดเด่นด้วยเนื้อฟิลเลอร์เนียนละเอียดที่กระจายตัวได้ดีในผิว ช่วยเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะยังไม่เป็นที่รู้จักมากในไทย แต่ผ่านการรับรองจาก อย. จึงมั่นใจในความปลอดภัย
หากกำลังมองหาฟิลเลอร์คุณภาพดี หมอแนะนำ Revanesse เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรพิจารณาครับ โดยในบทความนี้หมอได้รวบรวมทุกคำตอบเกี่ยวกับ Revanesse filler ว่าคืออะไร ส่วนประกอบที่โดนเด่นคืออะไร ? เหมาะฉีดตำแหน่งไหน ? ดีไหม ? มีวิธีดูฟิลเลอร์ของแท้อย่างไร ? แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ อย่างไรบ้าง ?
Revanesse filler คืออะไร ดีไหม ?
Revanesse Filler เป็นฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) จากประเทศแคนาดา ผลิตโดยบริษัท Prollenium Medical Technologies ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเวชสำอางคุณภาพสูง ได้รับความนิยมในอเมริกาและยุโรป เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษในด้านการเติมเต็มและปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันในประเทศไทย ฟิลเลอร์ Revanesse ได้รับการนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัทที่ได้รับการรับรองจาก อย. จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและมาตรฐานระดับสากลครับ
ส่วนประกอบในฟิลเลอร์ Revanesse filler มีอะไรบ้าง ?
Revanesse Filler มีส่วนประกอบหลักคือ Hyaluronic Acid (HA) คุณภาพสูงที่ผ่านกระบวนการปรับโมเลกุลให้มีความคงตัวและยืดหยุ่นด้วยเทคโนโลยี Thixofix Technology ซึ่งช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียน กระจายตัวได้ดี และเข้ากับเนื้อเยื่อได้อย่างกลมกลืน โดยไม่มีส่วนผสมของสารจากสัตว์ ฟิลเลอร์ชนิดนี้ถูกออกแบบให้เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า
จุดเด่นของ ฟิลเลอร์ Revanesse
จุดเด่นของ Revanesse Filler อยู่ที่การใช้ Thixofix Cross-Linking Technology ซึ่งช่วยเชื่อมโมเลกุลของ Hyaluronic Acid (HA) ให้มีความยืดหยุ่นสูง ง่ายต่อการฉีด และคงทน ไม่จับตัวเป็นก้อนหลังฉีด ผลลัพธ์ดูละมุนและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ อนุภาค HA ของ Revanesse มีทรงกลมและเรียบเนียน ช่วยลดปฏิกิริยาการอักเสบและอาการบวม ทำให้ผู้เข้ารับการฉีดรู้สึกสบายและเห็นผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งทำให้หลังฉีดมีอาการบวมน้อยด้วยครับ
ฟิลเลอร์ Perfectha ปลอดภัยไหม ?
ฟิลเลอร์ Perfectha มีความปลอดภัยสูงและผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย รวมถึงเครื่องหมาย CE จากสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งยืนยันถึงความปลอดภัยในการใช้งาน เทคโนโลยี E-Brid ช่วยให้โครงสร้างฟิลเลอร์คงตัว ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงมั่นใจได้ว่าเหมาะสำหรับการเติมเต็มและปรับรูปหน้าอย่างปลอดภัยครับ
ฟิลเลอร์ Revanesse ของแท้ ดูอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ Revanesse ของแท้ สามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีดังนี้
- สภาพกล่อง กล่องต้องสมบูรณ์ ปิดผนึก ไม่มีรอยแกะ
- ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ระบุวันผลิต วันหมดอายุ เลข Lot. ผลิต บนกล่องและหลอดผลิตภัณฑ์
- เอกสาร มาพร้อมเอกสารกำกับภาษาไทยภายในกล่อง
- การแกะกล่อง แพทย์ควรแกะกล่องต่อหน้า และผู้รับบริการสามารถขอกล่องกลับบ้านได้
ฟิลเลอร์ Revanesse มีกี่แบบ ? มีเนื้อแบบไหนบ้าง ?
ฟิลเลอร์ Revanesse มีหลากหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวในแต่ละตำแหน่งบนใบหน้า ดังนี้
- Revanesse Contour เนื้อเจลหนืด เหมาะสำหรับปรับโครงหน้า เพิ่มมิติให้รูปหน้า
- Revanesse Lips เนื้อเจลนิ่ม ออกแบบเพื่อเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม
- Revanesse Ultra เนื้อเจลหนืดปานกลาง ใช้สำหรับแก้ไขริ้วรอยร่องลึก
- Revanesse Shape เนื้อเจลหนืดที่สุด ใช้สำหรับยกกระชับและเพิ่มวอลลุ่มในจุดที่ต้องการ
ฟิลเลอร์ Revanesse filler ฉีดตำแหน่งไหนดีที่สุด ควรฉีดกี่ CC อยู่ได้นานแค่ไหน ?
ฟิลเลอร์ Revanesse มีความโดดเด่นในเรื่องเนื้อเจลที่หนืด เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึกและปรับรูปหน้าให้มีมิติ โดยแต่ละรุ่นเหมาะกับตำแหน่งที่แตกต่างกัน
- Revanesse Ultra: เหมาะสำหรับเติมร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และร่องมุมปาก ช่วยลดริ้วรอยลึก ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น อยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน ปริมาณแนะนำ 1–2 CC ต่อจุด
- Revanesse Shape: เหมาะสำหรับแก้มตอบ คาง และยกกระชับกรอบหน้า ช่วยเพิ่มวอลลุ่มและปรับรูปหน้าให้ดูชัดเจน อยู่ได้นาน 6–12 เดือน ปริมาณแนะนำ 2–4 CC
ฟิลเลอร์นี้ช่วยแก้ปัญหาได้ทันทีหลังฉีด โดยไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก ผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่ม ปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติ โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ใช้เวลาพักฟื้น หลังทำเห็นการผลการเปลี่ยนแปลงทันทีครับ
Revanesse มีความแตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นๆ อย่างไร?
สิ่งที่ทำให้ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันก็คือ เทคโนโลยีการผลิตครับ โดยจุดเด่นของ Revanesse filler อยู่ที่การใช้ Thixofix cross-linking Technology ที่พัฒนาเนื้อฟิลเลอร์ให้มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง ช่วยให้การฉีดง่าย เนื้อเจลไม่จับตัวเป็นก้อน และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ แตกต่างจากฟิลเลอร์อื่นที่อาจมีการบวมหลังฉีดมากกว่า ส่วนฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นๆ นั้ก็จะมีเทคโนโลยีการผลิต และจุดเด่นแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้หมอขอยกตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ในไทยที่นิยมใช้กัน ดังนี้
ฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นๆ
- Belotero Revive (สวิตเซอร์แลนด์) มีเทคโนโลยีการผลิต CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียน กระจายตัวดี ผิวกระจ่างใส ลดรอยแดงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณตื้น เช่น ใต้ตา ริ้วรอยเล็ก
- Restylane (สวีเดน) ใช้เทคโนโลยี NASHA และ OBT เนื้อฟิลเลอร์มีทั้งแบบแน่นและยืดหยุ่น กระจายตัวได้ดี ตอบโจทย์ทุกปัญหาริ้วรอย ใช้เติมร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และปรับรูปทรงใบหน้า
- Juvederm (อเมริกา) ใช้เทคโนโลยี Vycross และ Hylacross ที่มาพร้อมเนื้อฟิลเลอร์ยืดหยุ่นสูง ผลลัพธ์เรียบเนียน เติมเต็มได้ดี จึงเหมาะสมกับการเติมร่องลึก เช่น ขมับ ริมฝีปาก และปรับรูปหน้า
- Neuramis (เกาหลี) ผลิตด้วย SHAPE Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์หนืด ยึดเกาะดี ปั้นทรงง่าย จึงเหมาะกับการใช้เติมแก้มตอบ คาง และร่องลึก
- Neauvia (อิตาลี) ผลิตโดยใช้ในการผลิต PEG Polymer Technology ที่จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว จึงเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย และการยกกระชับ
- Definisse (อิตาลี) ผลิตโดย XTR™ Technology จึงได้เนื้อฟิลเลอร์ที่โดดเด่นด้วยโครงสร้าง 3D Reticulation ยกกระชับ ปรับโครงหน้า จึงเหมาะกับการฉีดปรับรูปหน้า เช่น กรอบหน้าและคาง
- E.P.T.Q. (เกาหลี) ใช้เทคโนโลยี Zero Endotoxin & BDDE Free จึงปลอดภัย ลดโอกาสอักเสบ ยืดหยุ่นดี จะเหมาะสำหรับการเติมคางและแก้มตอบ
- Revolax (เกาหลี) ผลิตด้วย Advanced Cross-Linking Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์ยืดหยุ่น ราคาย่อมเยา ปั้นทรงง่าย จึงเหมาะกับการใช้เติมร่องลึกปานกลาง เช่น ร่องแก้ม
ฟิลเลอร์ Revanesse ราคาเท่าไร ?
Revanesse Filler มีราคาประมาณ 10,000–15,000 บาทต่อ 1 CC โดยราคาจะแตกต่างไปตามรุ่น เช่น Revanesse Contour, Lips, หรือ Shape และจุดที่ฉีดบนใบหน้า นอกจากนี้ ราคายังขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและความเชี่ยวชาญของแพทย์ เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ผ่านการรับรองจาก อย. นะครับ