ฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร ดีไหม อันตรายไหม แก้แก้มตอบ แก้มแบน ฉีดแล้วหน้าเด็กจริงไหม ?

ฟิลเลอร์แก้มส้ม

หัวข้อ

ฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นเทคนิคการเติมเต็มบริเวณช่วงกลางแก้ม เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ มีมิติ และช่วยปรับสมดุลโครงหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ แก้มแบน หรือใบหน้าดูโทรม ฟิลเลอร์สามารถช่วยคืนความอิ่มฟู ให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม แต่การฉีดต้องอาศัยเทคนิคที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัย ในบทความนี้ เราจะอธิบายข้อดี ข้อเสีย ความปลอดภัย และการเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจครับ

ฟิลเลอร์แก้มส้มคืออะไร

ฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร ?

ฟิลเลอร์แก้มส้ม คือการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปบริเวณช่วงกลางแก้ม หรือจุดที่เรียกว่า Apple Cheeks เพื่อเสริมให้แก้มมีวอลลุ่ม ดูอวบอิ่ม และเพิ่มมิติให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น โดยเทคนิคนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่มีปัญหา แก้มตอบ แก้มแบน หรือใบหน้าดูโทรมจากอายุที่เพิ่มขึ้น ฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยเสริมแก้มที่แบนให้ดูอวบอิ่มขึ้นได้ เป็นหัตถการด้านความงามที่ไม่ยุ่งยาก หากฉีดในจุดที่เหมาะสม จะช่วยเสริมแก้มส้ม ยกกระชับผิว ให้ใบหน้าโดยรวมดูละมุน ดูมีมิติมากขึ้น และอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ หลังฉีดให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันที การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มไม่เพียงช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูสดใส แต่ยังช่วยลดร่องน้ำหมาก ปรับสมดุลโครงหน้า และทำให้รอยยิ้มดูมีเสน่ห์ขึ้น อย่างไรก็ตาม การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย 

ฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการปรับรูปหน้า ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้แก้มบริเวณกลางใบหน้า (Apple Cheeks) ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา แก้มตอบ แก้มแบน หรือใบหน้าดูโทรมจากอายุที่เพิ่มขึ้น

  • เพิ่มมิติให้ใบหน้าและทำให้ดูเด็กลง การเติมฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยปรับให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ทำให้หน้าแก้มดูเต็มขึ้น ใบหน้าดูเด็กลง และให้ความสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ช่วยยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ฟิลเลอร์แก้มส้มไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มวอลลุ่มเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วย ยกกระชับโครงหน้า ลดปัญหา ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก และช่วงแก้มหย่อนคล้อย ซึ่งเป็นสัญญาณของวัยที่เพิ่มขึ้น
  • ปรับสมดุลใบหน้าให้ดูละมุนขึ้น สำหรับผู้ที่มีโหนกแก้มเด่นหรือโครงหน้าดูแข็ง การเติมฟิลเลอร์บริเวณแก้มส้มสามารถช่วย ลดความแข็งของโครงหน้า และทำให้ใบหน้าดูสมส่วน มีความสมดุลระหว่างช่วงแก้มและคางมากขึ้น
  • ช่วยเติมเต็มร่องใต้ตาลึกและร่องหน้าแก้ม ฟิลเลอร์แก้มส้มยังช่วยให้ ร่องใต้ตาและร่องหน้าแก้มที่ลึกดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใส ไม่โทรม และลดความหมองคล้ำรอบดวงตา

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คือการฉีดที่บริเวณใดบ้าง

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คือการฉีดที่บริเวณใดบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็น เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์บริเวณกึ่งกลางใบหน้า หรือที่เรียกว่า Midface Filler ซึ่งเน้นการเติมเต็มพวงแก้มให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับโครงหน้า โดยทั่วไป จุดที่นิยมฉีดจะอยู่ในบริเวณ ส่วนบนของแก้ม (Upper Cheek) เพื่อให้หน้าดูมีมิติและอิ่มฟูขึ้น

จุดฉีดหลักของฟิลเลอร์แก้มส้ม

  1. จุดกลางของพวงแก้ม (Apple Cheeks)  เป็นตำแหน่งสำคัญที่ช่วยให้แก้มดูอิ่ม เติมเต็มโครงสร้างที่ยุบตัว ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง
  2. จุดใต้ตาและร่องน้ำตา (Tear Trough Area) ช่วยลดความลึกของใต้ตา ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
  3. บริเวณร่องแก้ม (Nasolabial Fold Area) ช่วยลดร่องลึกข้างจมูกที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
  4. บริเวณช่วงข้างแก้มและแนวกระดูกโหนกแก้ม (Lateral Cheek) ปรับสมดุลโครงหน้า ลดความแข็งของโหนกแก้ม ให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น
  5. บริเวณร่องน้ำหมาก (Marionette Lines) ลดรอยพับที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกและไขมัน ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็น หัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาการยุบตัวของกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมัน ที่เป็นสาเหตุให้ ผิวหย่อนคล้อย ร่องใต้ตาลึก และร่องน้ำหมากเด่นชัดขึ้น ซึ่งมักเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น เทคนิคนี้ช่วยปรับโครงหน้าให้ดูสมดุลขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นการเติมเต็ม บริเวณกึ่งกลางของใบหน้า หรือพวงแก้ม (Midface Filler) เพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุลมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มโครงสร้างใบหน้าและลดเลือนริ้วรอยจากอายุที่เพิ่มขึ้น

กลุ่มคนที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

  1. ผู้ที่มีแก้มแบน ไร้มิติ ฟิลเลอร์ช่วยให้แก้มดูอิ่มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูละมุนและเด็กลง
  2. ผู้ที่มีร่องแก้มลึก ร่องใต้ตาชัด เติมเต็มโครงสร้างที่ยุบตัว ลดความลึกของร่องใต้ตาและร่องแก้ม
  3. ผู้ที่แก้มหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้น ฟิลเลอร์ช่วยยกกระชับและคืนวอลลุ่มให้กับผิว
  4. ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสดใสขึ้น แก้มส้มที่ได้สัดส่วนช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและมีพลังมากขึ้น
  5. ผู้ที่มีร่องน้ำหมากเด่นชัด ฟิลเลอร์สามารถช่วยลดริ้วรอยร่องน้ำหมาก ทำให้ใบหน้าดูสดชื่นและอ่อนวัย

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยแก้ปัญหาการ ยุบตัวของกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมัน ซึ่งส่งผลให้ ผิวหย่อนคล้อย ร่องใต้ตาลึก และร่องน้ำหมากเด่นชัดขึ้น เป็นหัตถการที่ช่วยปรับสมดุลโครงหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดี-ข้อเสีย ในการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มมีอะไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในการช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูสมดุลขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหา แก้มแบน แก้มตอบ หรือใบหน้าขาดมิติ อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

ช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้า ทำให้ใบหน้าดูอิ่มขึ้น ได้สัดส่วนที่สมดุล และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ลดริ้วรอยและช่วยยกกระชับ ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องแก้ม ร่องใต้ตา และช่วยลดความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าช่วงกลาง
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เป็นวิธีที่ไม่ต้องมีการกรีดผิวหรือการพักฟื้นนาน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เห็นผลทันทีหลังทำ และดูเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น โดยให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันทีหลังฉีด
สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ แพทย์สามารถออกแบบและปรับแต่งฟิลเลอร์ให้เข้ากับใบหน้าของแต่ละบุคคล

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากฉีดผิดชั้นหรือใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลหรือเกิดก้อนใต้ผิว
ฟิลเลอร์มีอายุจำกัด โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน จากนั้นจะค่อย ๆ สลายไปเอง
อาจเกิดอาการบวมและรอยช้ำเล็กน้อย อาการเหล่านี้พบได้ชั่วคราวและจะหายไปภายใน 3-7 วัน
มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหากใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฉีดผิดตำแหน่ง การฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดภาวะฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดหรือเป็นก้อนไม่สม่ำเสมอ

ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์หน้าแก้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ต่างกันยังไง ฉีดพร้อมกันได้ไหม ?

การฉีด ฟิลเลอร์บริเวณแก้ม สามารถแบ่งออกเป็น 3 บริเวณหลัก ซึ่งแต่ละจุดมีเป้าหมายและการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน

ฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นการฉีดที่บริเวณ กลางใบหน้าหรือพวงแก้ม (Midface Filler) เพื่อเติมเต็มแก้มที่แบนหรือยุบตัว ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง เสริมความมีมิติ และช่วยให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น

ฟิลเลอร์หน้าแก้ม ฉีดบริเวณ เหนือร่องแก้ม เพื่อช่วยลดความเด่นชัดของร่องแก้ม ลดเงาบริเวณนี้ และช่วยให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น

ฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นการฉีดเพื่อ เติมเต็มบริเวณแก้มที่ยุบหรือมีลักษณะตอบ ซึ่งเกิดจากการสูญเสียไขมันหรือโครงสร้างกระดูก ทำให้ใบหน้าดูโทรมและแข็งเกินไป

สามารถฉีดพร้อมกันได้ไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุดสามารถ ทำพร้อมกันได้ โดยแพทย์จะประเมินโครงหน้าและออกแบบให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ทั้ง 3 บริเวณสามารถเสริมกันและช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้น เช่น การเติมฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยยกโครงสร้างใบหน้า ฟิลเลอร์หน้าแก้มช่วยลดร่องแก้ม และฟิลเลอร์แก้มตอบช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น ดังนั้น การเลือกฉีดจุดใดจุดหนึ่งหรือฉีดพร้อมกัน ควรได้รับการประเมินจากแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูสวยงามและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลครับ

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์แก้มส้ม ต้องเลือกใช้ยี่ห้อไหนถึงได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ?

การเลือก ฟิลเลอร์แก้มส้ม ควรพิจารณาจาก คุณสมบัติของเนื้อฟิลเลอร์ ที่ต้องมีความหนืดและคงตัวดี เพื่อช่วย เติมเต็มแก้มที่แบนหรือยุบตัวให้ดูมีมิติ พร้อมทั้งช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูละมุนเป็นธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดบริเวณแก้มส้มมีดังนี้

Juvederm Voluma (USA) – มีเทคโนโลยี Vycross™ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและพยุงโครงสร้างผิวได้ดี เหมาะสำหรับเติมเต็มบริเวณแก้มและช่วยยกกระชับให้ใบหน้าดูเด็กลง

Restylane Lyft (Sweden) – มีเนื้อฟิลเลอร์ที่แน่นและแข็งแรง ทำให้ช่วยยกพยุงใบหน้าได้ดี ไม่ไหลย้อย และให้ผลลัพธ์ที่คงตัว

Belotero Volume (Germany) – ฟิลเลอร์ที่มีเทคโนโลยี CPM™ ช่วยกระจายตัวได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและเรียบเนียน

Neuramis Volume (Korea) – เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง สามารถเติมเต็มและช่วยยกกระชับได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีแก้มที่ยุบตัวมาก

Revolax Sub-Q (Korea) – มีความหนืดสูง ทำให้สามารถช่วยพยุงโครงสร้างใบหน้าและคงรูปได้นาน

เลือกยี่ห้อไหนดี ?

การเลือกใช้ฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับ ปัญหาโครงหน้าและสภาพผิวของแต่ละบุคคล หากต้องการ ยกกระชับและเติมเต็มให้ดูละมุน Juvederm Voluma และ Restylane Lyft เป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการตัวเลือกที่ให้ ผลลัพธ์ที่คงตัวในราคาที่คุ้มค่า Neuramis Volume หรือ Revolax Sub-Q ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มควรฉีดกี่ CC 

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด แก้มส้ม ขึ้นอยู่กับ โครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล และ ระดับของปัญหาที่ต้องการแก้ไข โดยทั่วไป แพทย์จะประเมินปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน หรือแข็งเกินไป

2-4 CC – สำหรับผู้ที่มีแก้มส้มยุบตัวเล็กน้อย ต้องการปรับมิติให้ดูละมุนขึ้น
4-6 CC – สำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มแบน โครงหน้าแบน หรือเริ่มมีร่องใต้ตาชัดขึ้น
6-8 CC – สำหรับผู้ที่มีการยุบตัวของแก้มจากอายุที่เพิ่มขึ้น และต้องการเติมเต็มให้ดูเด็กลง

การเลือก ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม จะช่วยให้ใบหน้าดู สดใส อ่อนเยาว์ และ ยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ควร ให้แพทย์ประเมินก่อนฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับโครงหน้าครับ

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มอยู่ได้นานแค่ไหน

ฟิลเลอร์แก้มส้ม อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ฟิลเลอร์แก้มส้มสามารถอยู่ได้นาน 8-18 เดือน ขึ้นอยู่กับ ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ และ การดูแลหลังฉีด ฟิลเลอร์ที่มี ความหนืดสูงและโมเลกุลขนาดใหญ่ เช่น Juvederm Voluma, Restylane Lyft และ Belotero Volume มักให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า เนื่องจากสามารถพยุงโครงสร้างแก้มได้ดี

นอกจากนี้ พฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็มีผลต่ออายุของฟิลเลอร์ เช่น การดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการสัมผัสความร้อนสูง จะช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวและอยู่ได้นานขึ้น หากต้องการ รักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ สามารถเติมฟิลเลอร์ซ้ำได้ทุก 12 เดือน เพื่อให้แก้มส้มดูเต็มอิ่มและยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติครับ

ฟิลเลอร์แก้มส้ม อันตรายไหม ?

การฉีด ฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากใช้ฟิลเลอร์แท้และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจาก Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่ได้รับการรับรองจาก อย. สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และหากเกิดปัญหาสามารถฉีดสลายได้ด้วย Hyaluronidase

อย่างไรก็ตาม หากฉีดโดยแพทย์ที่ ขาดประสบการณ์ หรือ ใช้ฟิลเลอร์ปลอม อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น

  • ฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือไหลผิดตำแหน่ง จากการเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม
  • การอุดตันเส้นเลือด (Vascular Occlusion) ซึ่งเป็นภาวะรุนแรงที่อาจทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือดและเกิดเนื้อตาย
  • การติดเชื้อและอักเสบ หากฉีดในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดหรือไม่ได้ใช้เทคนิคที่ปลอดภัย

ดังนั้น ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงและให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติครับ

ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นหัตถการที่ช่วยเติมเต็มพวงแก้มให้ดูอวบอิ่ม ยกกระชับ และทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีด และ ดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังทำ เพื่อลดความเสี่ยงของอาการข้างเคียงและยืดอายุของฟิลเลอร์

✅ ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

  1. งดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วิตามินอี, น้ำมันปลา และโสม อย่างน้อย 3-7 วันก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของรอยช้ำ
  2. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง ก่อนฉีด เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มโอกาสเกิดอาการบวมช้ำ
  3. พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยให้ฟิลเลอร์เข้ากับเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น
  4. งดออกกำลังกายหนัก และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมากเกินไป เช่น ซาวน่า หรือโยคะร้อน อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
  5. แจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบ หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือแพ้ยาใดๆ ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีด

✅ ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

  1. หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 3-7 วัน เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
  2. งดออกกำลังกายหนัก ซาวน่า และอบไอน้ำ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวมและป้องกันฟิลเลอร์ไหลผิดตำแหน่ง
  3. ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและอยู่ได้นานขึ้น
  4. งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมและส่งผลต่อการติดตั้งของฟิลเลอร์
  5. หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ ในช่วง 3-7 วันแรก เพื่อป้องกันแรงกดทับบริเวณแก้มส้มที่ฉีดฟิลเลอร์
  6. งดทำหัตถการอื่นๆ บนใบหน้า เช่น เลเซอร์ RF ไฮฟู หรือทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังฉีด เพื่อป้องกันการสลายของฟิลเลอร์
  7. หากมีอาการบวมแดงหรือฟกช้ำเล็กน้อย สามารถประคบเย็นเบาๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อบรรเทาอาการ
  8. สังเกตอาการผิดปกติ หากพบอาการปวด บวมผิดปกติ หรือมีผิวซีดลงในบริเวณที่ฉีด ควรรีบพบแพทย์ทันที

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นหัตถการที่ช่วยเติมเต็มพวงแก้มให้ดูอิ่มฟูและยกกระชับใบหน้า อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ ซึ่งแบ่งออกเป็น ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป และ ภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวัง

✅ ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป (Temporary Side Effects)

  • อาการบวมแดงและรอยช้ำเล็กน้อย มักเกิดขึ้นภายใน 24-72 ชั่วโมงแรกจากการฉีดฟิลเลอร์ และจะค่อยๆ หายไปเอง
  • ความรู้สึกตึงบริเวณแก้ม เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปเติมเต็มโครงสร้างผิว อาการนี้มักลดลงภายใน 3-7 วัน
  • อาการคันหรือระคายเคืองเล็กน้อย อาจเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อสารฟิลเลอร์ ซึ่งจะหายไปเอง

🚨 ภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวัง (Severe Side Effects)

  • ฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือจับตัวผิดปกติ อาจเกิดจากการฉีดผิดชั้นผิว หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นที่เหมาะสม
  • ฟิลเลอร์ไหลผิดตำแหน่ง หากฉีดฟิลเลอร์ที่มีความหนืดต่ำ หรือได้รับแรงกดทับหลังทำ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง
  • เส้นเลือดอุดตัน (Vascular Occlusion) เกิดขึ้นได้หากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันหลอดเลือด อาจทำให้ผิวซีดขาวหรือเกิดภาวะเนื้อตาย ควรรีบพบแพทย์ทันที

🔹 วิธีลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

  • เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์
  • ใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย.
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนและหลังฉีดอย่างเคร่งครัด

แม้ผลข้างเคียงส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและหายไปเอง แต่หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดมากผิดปกติ ผิวซีดลง หรือมองเห็นผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันทีครับ

ฉีดแก้มส้มนอนตะแคงได้ไหม ?

หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ไม่ควรนอนตะแคงทันที โดยเฉพาะในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เนื่องจากแรงกดทับจากหมอนหรือท่านอนอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง หรือเกิดการกระจายตัวที่ไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ผลลัพธ์ไม่สมมาตร แพทย์แนะนำให้ นอนหงาย โดยใช้หมอนรองศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อลดอาการบวมและช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวเข้ากับเนื้อเยื่อได้อย่างเหมาะสม หลังจากผ่านไป 3-7 วัน ฟิลเลอร์จะเริ่มคงรูป สามารถกลับมานอนตะแคงได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้าหนักๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานครับ

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มที่ TBL Clinic ดีอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นหัตถการที่ต้องอาศัย ความแม่นยำและความเชี่ยวชาญของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ที่ TBL Clinic เราให้ความสำคัญกับ มาตรฐานทางการแพทย์และเทคนิคเฉพาะบุคคล ทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน

  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ มีประสบการณ์สูง วิเคราะห์โครงหน้าก่อนทำ และใช้เทคนิคฉีดที่แม่นยำ
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ 100% ผ่านการรับรองจาก TH-FDA, US-FDA และ CE เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ปรับโครงหน้าให้สมดุลโดยไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งหรือผิดรูป
  • การติดตามผลหลังทำ มีการนัดตรวจประเมิน พร้อมให้คำแนะนำการดูแลหลังฉีดอย่างใกล้ชิด

หากคุณต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์ TBL Clinic คือคลินิกที่คุณสามารถไว้วางใจได้ครับ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม