ฉีดฟิลเลอร์ปาก ครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ช่วยอะไร ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน อยู่ได้นานไหม ?

What do lip filler injections help with?

หัวข้อ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยปรับรูปปากให้ได้สัดส่วน เติมความอวบอิ่ม และแก้ไขปัญหาริมฝีปากไม่สมดุลหรือแห้งแตก สำหรับผู้ที่ฉีดครั้งแรกควรรู้ข้อมูลสำคัญ เช่น การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม หากคุณกำลังสนใจการฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อปรับรูปทรง เพิ่มความอวบอิ่ม หรือแก้ไขปัญหาริมฝีปาก ครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง? บทความนี้มีคำตอบครบครัน ทั้งเรื่องความปลอดภัย ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่แนะนำ วิธีการดูแลหลังฉีด และข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่ อ่านต่อเพื่อเตรียมตัวอย่างมั่นใจก่อนเข้ารับบริการนะครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ปาก คือ หัตถการเสริมความงามที่ใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แพทย์จะฉีดสารนี้เข้าสู่ริมฝีปากเพื่อเพิ่มเนื้อเยื่อและปรับโครงสร้างริมฝีปากให้ได้รูปทรงที่สมดุล อวบอิ่ม และดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ปากยังสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ริมฝีปากบน-ล่างไม่สมดุล ริมฝีปากแห้ง แตก เป็นร่อง หรือมีลักษณะลอกเป็นขุยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฉีดฟิลเลอร์ปากยังช่วยแก้ปัญหามุมปากตก ซึ่งมักทำให้ใบหน้าดูเศร้าหรือไม่สดใส เทคนิคการฉีดยกมุมปากจะช่วยปรับรูปทรงให้ดูยิ้มแย้มและอ่อนโยนมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเติมเต็มผิวรอบริมฝีปากที่มีริ้วรอยเล็กๆ ให้ดูเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังการฉีด และเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คุณจะมั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแน่นอนครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีอะไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการเสริมความงามที่ช่วยแก้ไขและปรับปรุงรูปลักษณ์ของริมฝีปากได้อย่างหลากหลาย โดยมีข้อดีที่น่าสนใจ ดังนี้

  1. ปรับรูปทรงปากให้สวยงาม สำหรับผู้ที่มีเนื้อปากไม่สมดุลหรือรูปร่างปากไม่ชัดเจน การฉีดฟิลเลอร์ช่วยปรับแต่งให้ริมฝีปากดูมีทรงที่สวยงาม สมดุล และเข้ากับโครงหน้ามากขึ้น
  2. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากแห้ง แตก หรือมีร่องลึก ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณริมฝีปาก ทำให้ดูเนียนเรียบและมีสุขภาพดี
  3. ยกมุมปากตก ฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหามุมปากตกที่ทำให้ใบหน้าดูเศร้าหรือไม่สดใส โดยการยกกระชับมุมปากให้ดูสดใสและอ่อนโยนขึ้น
  4. เติมเต็มริมฝีปากบาง สำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบาง ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มเนื้อปากให้ดูอวบอิ่มและฟูขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  5. เสริมลักษณะตามหลักโหงวเฮ้ง การปรับลักษณะริมฝีปากให้เหมาะสมกับโหงวเฮ้ง ช่วยเสริมความมั่นใจและเพิ่มเสน่ห์ให้กับผู้ที่ต้องการปรับภาพลักษณ์

What do lip filler injections help with?

ทรงฉีดฟิลเลอร์ปาก มีแบบไหนบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีที่ช่วยปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูสวยงามและสมดุลกับใบหน้า โดยทรงปากที่ได้รับความนิยมมีหลากหลายแบบ ได้แก่

  1. ทรงปากอวบอิ่ม (Full Lips)  เพิ่มความหนาให้ริมฝีปากดูอวบฟู เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบาง
  2. ทรงปากกระจับ (Cupid’s Bow)  ปรับรูปทรงโค้งตรงกลางให้ชัดเจน ดูสวยหวานและมีเอกลักษณ์
  3. ทรงปากสายฝอ (Heart-Shaped) เน้นความอิ่มฟูบริเวณกลางริมฝีปากล่าง ให้ลุคเซ็กซี่และโดดเด่น
  4. ทรงปากธรรมชาติ (Natural Lips) เติมเต็มริมฝีปากให้ดูสมดุล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคเรียบง่าย

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงไหนดี ?

ฉีดปากกระจับ เหมาะกับใคร ?

ทรงปากกระจับเป็นทรงที่มีความโค้งเด่นชัดบริเวณกลางริมฝีปากบน (Cupid’s Bow) และเรียวเล็กลงบริเวณมุมปาก ให้ลุคที่ดูหวานละมุน มีเสน่ห์ และเป็นธรรมชาติ ทรงนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบางหรือริมฝีปากบนไม่มีรูปทรงที่ชัดเจน และต้องการปรับให้ดูอ่อนโยนขึ้น

ผู้ที่มีโครงหน้าหวานหรือใบหน้ารูปไข่จะเหมาะกับทรงปากกระจับมาก เนื่องจากช่วยเพิ่มความสมดุลและทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

ทรงฉีดปากเกาหลี เหมาะกับใคร ?

ทรงปากเกาหลีเป็นทรงที่เน้นความเป็นธรรมชาติและเรียบหรู โดยมีลักษณะริมฝีปากบนและล่างสมดุลกัน ไม่มีความโค้งเว้าชัดเจนเหมือนทรงปากกระจับ แต่เพิ่มความอิ่มฟูเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูละมุน สดใส และอ่อนโยน ทรงนี้เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบลุคธรรมชาติหรือมีใบหน้าละเอียดอ่อน เช่น ใบหน้ารูปไข่หรือใบหน้าที่มีกรอบเรียวเล็ก นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการปรับริมฝีปากให้ดูอิ่มแต่ไม่โดดเด่นเกินไป เช่น ในลุคที่ดูเป็นธรรมชาติแบบสาวเกาหลี จะได้รับประโยชน์จากทรงปากนี้มากที่สุด

ทรงฉีดปากสายฝอ เหมาะกับใคร ?

ทรงปากสายฝอเน้นความอวบอิ่มและเซ็กซี่ มีลักษณะริมฝีปากล่างที่หนากว่าริมฝีปากบนเล็กน้อย พร้อมขอบปากที่คมชัด ริมฝีปากอวบอิ่ม สร้างความโดดเด่นให้กับรูปหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจและเสริมเสน่ห์ให้ดูน่าดึงดูด ทรงนี้เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าคมชัด โครงหน้าชัดเจน เช่น ใบหน้ารูปเพชรหรือรูปหัวใจ รวมถึงผู้ที่ต้องการเสริมความโดดเด่นของริมฝีปากให้เข้ากับการแต่งหน้าสายฝอหรือสไตล์การแต่งตัวที่เน้นความมั่นใจแบบตัวแม่ตัวมัม

ฉีดปากแต่ละทรง ต้องใช้กี่ CC ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากในแต่ละทรง เช่น ปากกระจับ ปากเกาหลี หรือปากสายฝอ จะต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของทรงที่ต้องการและเนื้อปากของแต่ละบุคคล

  • ปากกระจับ ใช้ประมาณ 0.5-1 CC เน้นเพิ่มความชัดเจนของขอบปากและความเป็นกระจับ
  • ปากเกาหลี ใช้ประมาณ 1-1.5 CC เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ปากสายฝอ ใช้ประมาณ 1.5-2 CC เพื่อสร้างความอวบอิ่มและคมชัดให้ริมฝีปาก

เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ปากที่ TBL CLinic

ที่ TBL Clinic เราเน้นเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ตอบโจทย์ความสวยงามและความเหมาะสมเฉพาะบุคคล โดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญจะเริ่มต้นด้วยการประเมินรูปทรงปากของคนไข้ พร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียดเพื่อปรับทรงปากให้เหมาะกับโครงหน้าและความต้องการของแต่ละบุคคล

หนึ่งในเทคนิคที่โดดเด่นคือ การฉีดยกมุมปาก ซึ่งช่วยปรับมุมปากที่ตกให้ดูยิ้มแย้ม สดใส และเสริมบุคลิกภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคนไข้มีเรฟทรงปากที่ต้องการ สามารถมั่นใจได้ว่าเราสามารถปรับแต่งให้ตรงตามเรฟด้วยความแม่นยำ โดยยังคำนึงถึงความเหมาะสมและความเป็นธรรมชาติของผลลัพธ์ การดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงของเรา ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกเคสจะได้รับผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และตรงตามความต้องการของคนไข้ทุกคนครับ

ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ได้จริงหรอ ?

การฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ถือได้ว่าเป็นเทคนิคที่สามารถทำได้จริง หากต้องการเพื่อปรับรูปทรงของมุมปากให้ดูยกขึ้น ลดลักษณะมุมปากตกที่อาจทำให้ใบหน้าดูเศร้าหรือมีอายุ ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) สามารถช่วยเติมเต็มและเสริมโครงสร้างผิวบริเวณรอบมุมปาก ทำให้รูปปากดูเป็นธรรมชาติและอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ในการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกายวิภาคของใบหน้า เนื่องจากบริเวณมุมปากเป็นจุดที่มีเส้นประสาทและเส้นเลือดจำนวนมาก หากฉีดผิดตำแหน่ง อาจทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือด ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ผิวหนังขาดเลือด หรืออาการบวมผิดปกติได้

ซึ่งสำหรับความเสี่ยงของการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากสามารถลดลงได้ หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ซึ่งสามารถวิเคราะห์รูปหน้า เลือกตำแหน่งฉีดที่ปลอดภัย และใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากสามารถทำได้จริง แต่ก็เป็นจุดที่หมอขอแนะนำว่าต้องเลือกคุณหมอที่มีการฉีดเทคนิคเฉพาะตัว ที่สามารถยกมุมปากได้จริง เพราะสำหรับส่วนของมุมปากนั้นหากฉีดเนื้อฟิลเลอร์มากเกินไป ก็จะยิ่งทำให้ปากตก ปากห้อยได้ ดังนั้นเทคนิคการฉีดยกมุมปากที่ to beloved clinic มั่นใจได้เลยว่าได้ปากยิ้ม ปากไม่คว่ำแน่นอนครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงในวงการเสริมความงาม และโดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัย หากปฏิบัติตามมาตรฐานที่ถูกต้องปัจจัยสำคัญที่ลดความเสี่ยงมาจากการเลือกฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากอย. ซึ่งมักประกอบด้วยสารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

อันตรายที่อาจเกิดขึ้น มักเกี่ยวข้องกับการเลือกสถานพยาบาลหรือผู้ให้บริการที่ขาดความเชี่ยวชาญ เช่น การใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฉีดด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อ การบวมแดง หรือในกรณีร้ายแรงคือการอุดตันเส้นเลือด เพื่อความปลอดภัยควรเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนและหลังการฉีดอย่างเคร่งครัด ด้วยแนวทางนี้ความเสี่ยงจะลดลง และคุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึ่งพอใจแน่นอนครับ

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อปรับรูปทรงและเพิ่มความอิ่มเอิบ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองและเหมาะสมกับปัญหาหรือความต้องการของแต่ละบุคคล ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสำหรับริมฝีปากมีดังนี้

  1. Belotero Revive ฟิลเลอร์จากเยอรมนี เนื้อฟิลเลอร์ละเอียด มีส่วนผสมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับปากแห้งและต้องการฟื้นฟู
  2. Restylane Kysse ฟิลเลอร์จากสวีเดน ออกแบบมาเฉพาะสำหรับริมฝีปาก ให้ความยืดหยุ่นและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  3. Juvederm Volbella ฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา มีเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ช่วยให้ริมฝีปากดูอิ่มฟูแต่ไม่แข็ง
  4. Neuramis Deep ฟิลเลอร์จากเกาหลี คุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่า ช่วยเติมเต็มและปรับทรงปากให้ชัดเจน
  5. Neauvia Stimulate ฟิลเลอร์จากอิตาลี มีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เหมาะสำหรับปากที่เริ่มมีริ้วรอย
  6. Definisse Filler ฟิลเลอร์ที่มอบความเต่งตึงและคงตัวสูง ช่วยให้ปากดูสวยชัดเป็นธรรมชาติ
  7. E.P.T.Q. S300 ฟิลเลอร์เกาหลีที่เหมาะสำหรับปาก เนื้อสัมผัสบางเบา ให้ผลลัพธ์ที่สมจริง
  8. Revolax Deep ฟิลเลอร์จากเกาหลี เนื้อฟิลเลอร์แน่น ช่วยเติมเต็มปากให้ดูอิ่มเอิบและยาวนาน

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี ?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้กี่เดือน  ?

โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ความเข้มข้นของไฮยาลูโรนิก แอซิด และการดูแลรักษาหลังฉีด ฟิลเลอร์บางรุ่น เช่น Juvederm Volbella และ Restylane Kysse ที่มีเทคโนโลยีเฉพาะในการคงความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้น จะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 9-12 เดือน ในขณะที่ฟิลเลอร์รุ่นอื่น เช่น Neuramis Deep หรือ Belotero Revive อาจคงอยู่ในช่วง 6-9 เดือน

แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ระยะเวลาของฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล เช่น การเคลื่อนไหวของริมฝีปาก ความเร็วของการสลายฟิลเลอร์ในร่างกาย และการดูแลรักษาที่เหมาะสม การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนสูงและดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ให้คงอยู่ได้นานขึ้นครับ

ข้อควรปฏิบัติก่อน ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีอะไรบ้าง ?

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน การปฏิบัติตัวตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงาม ดังนี้

  1. งดการใช้ยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรงดรับประทานยากลุ่มแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน และอาหารเสริมบางชนิด เช่น น้ำมันปลา, วิตามินอี หรือสมุนไพรที่ทำให้เลือดไหลเวียนง่าย เช่น โสม อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออกง่าย
  2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์และนิโคตินมีผลกระทบต่อการไหลเวียนโลหิต และอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ ควรงดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
  3. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวันช่วยให้ระบบร่างกายฟื้นฟูและลดความตึงเครียดของผิวบริเวณปาก
  4. แจ้งประวัติสุขภาพและยาที่ใช้อยู่ หากคุณมีโรคประจำตัว การแพ้สาร หรือกำลังใช้ยาใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนทำหัตถการ
  5. งดการสครับหรือลอกผิวบริเวณริมฝีปาก หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ริมฝีปากหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ระคายเคืองอย่างน้อย 2-3 วันก่อนฉีด

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ ต้องรู้อะไรบ้าง ฉีดครั้งแรกต้องเตรียมตัวยังไง มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก มีอะไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่ต้องการความเชี่ยวชาญและการประเมินอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ต่อไปนี้คือขั้นตอนสำคัญที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. การปรึกษาและประเมินโครงสร้างปาก แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการพูดคุยและรับฟังความต้องการของคนไข้ พร้อมกับประเมินโครงสร้างปาก เช่น ความสมดุลของริมฝีปากบน-ล่าง ความหนา-บาง และปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อเลือกทรงปากและเทคนิคการฉีดที่เหมาะสม
  2. การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม แพทย์จะแนะนำยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของคนไข้ โดยเฉพาะบริเวณปากที่ต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและกระจายตัวได้ดี
  3. เตรียมพื้นที่ในการฉีด นั่นก็คือการทำความสะอาดบริเวณริมฝีปากและรอบ ๆ ด้วยสารฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และในบางกรณี อาจใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บระหว่างการฉีด
  4. การฉีดฟิลเลอร์
    แพทย์จะใช้เข็มหรือเข็มแคนูลาที่มีความปลอดภัยสูง ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในชั้นผิวตามจุดที่วางแผนไว้ เทคนิคการฉีดจะเน้นความละเอียดอ่อน เพื่อสร้างทรงปากที่สมดุล อวบอิ่ม และเป็นธรรมชาติ
  5. การปรับแต่งและตรวจสอบผลลัพธ์
    หลังฉีด แพทย์จะนวดเบา ๆ บริเวณปากเพื่อจัดฟิลเลอร์ให้กระจายตัวสม่ำเสมอ และตรวจสอบผลลัพธ์ร่วมกับคนไข้ หากจำเป็น อาจฉีดเพิ่มเติมในปริมาณเล็กน้อยเพื่อความสมบูรณ์แบบ
  6. คำแนะนำหลังการฉีด
    แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลหลังการฉีด เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อนและการกดบริเวณปาก รวมถึงการปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลัง ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่อาจพบเจอได้

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการทางความงามที่ปลอดภัยเมื่อดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่เช่นเดียวกับหัตถการอื่นๆ อาจมีอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้หลังการฉีด ซึ่งแบ่งออกเป็นอาการปกติและอาการที่ควรไปพบแพทย์ดังนี้

อาการปกติที่อาจพบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
  1. อาการบวมและแดง
    บริเวณริมฝีปากอาจมีอาการบวมเล็กน้อยและแดงในช่วง 1-3 วันแรก ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายหลังจากการฉีด
  2. รอยเข็มหรือรอยช้ำเล็กน้อย
    บริเวณที่ฉีดอาจมีรอยเข็มหรือรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะจางหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์
  3. ความรู้สึกไม่สม่ำเสมอในเนื้อปาก
    ในบางกรณี อาจรู้สึกถึงความไม่สม่ำเสมอของฟิลเลอร์ในช่วงแรก ฟิลเลอร์จะกระจายตัวและเข้าที่ภายใน 1-2 สัปดาห์
อาการที่ควรพบแพทย์ทันที
  1. อาการบวมแดงและเจ็บปวดอย่างรุนแรง
    หากอาการบวมและแดงไม่ลดลงหรือมีความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้น ควรพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
  2. ริมฝีปากซีดหรือเปลี่ยนสี
    หากบริเวณที่ฉีดมีสีซีดหรือเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ อาจเป็นสัญญาณของการอุดตันของหลอดเลือด
  3. มีตุ่มหรือก้อนแข็งผิดปกติ
    หากพบว่ามีก้อนแข็งที่ไม่ลดลงหรือรู้สึกเจ็บผิดปกติบริเวณริมฝีปาก ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อประเมิน

ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน ? กี่วันเห็นผล ?

หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก ผู้รับบริการมักมีคำถามเกี่ยวกับระยะเวลาที่อาการบวมจะลดลง และเมื่อใดจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด ซึ่งคำตอบอาจแตกต่างไปตามแต่ละบุคคล โดยปัจจัยที่ส่งผลได้แก่ ปริมาณฟิลเลอร์ เทคนิคการฉีด และการดูแลหลังฉีด

อาการบวมกี่วัน? โดยทั่วไป อาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกาย ซึ่งจะเริ่มลดลงภายใน 1-3 วันแรก และหายสนิทภายใน 5-7 วัน ในบางรายอาจมีอาการบวมเล็กน้อยที่คงอยู่ได้นานถึง 10 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของร่างกาย

กี่วันเห็นผลดีที่สุด? ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ปากจะเห็นได้ทันทีหลังทำ แต่จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์และเข้าที่ภายใน 7-14 วัน เนื่องจากฟิลเลอร์ต้องใช้เวลาในการกระจายตัวและปรับเข้ากับโครงสร้างริมฝีปาก

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ดีและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ พร้อมลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่ควรปฏิบัติ

ข้อควรปฏิบัติที่สำคัญ

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสริมฝีปาก ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการจับ นวด หรือกดบริเวณริมฝีปาก เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือเสียรูปทรง
  2. งดอาหารร้อนและรสจัด หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัดหรือเผ็ดเกินไปในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดโอกาสเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบ
  3. ดื่มน้ำมากๆ การดื่มน้ำช่วยให้ฟิลเลอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและรักษาความชุ่มชื้นของริมฝีปาก
  4. งดออกกำลังกายหนัก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก หรือกิจกรรมที่เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เช่น ซาวน่า หรือการอบไอน้ำ
  5. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อลดการเกิดอาการบวมและผลกระทบต่อการฟื้นฟูของริมฝีปาก

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก การปฏิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ดี ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

  1. ห้ามจับหรือนวดบริเวณริมฝีปาก ควรหลีกเลี่ยงการจับ กด หรือนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์และการเสียรูปทรง
  2. ห้ามสัมผัสความร้อนสูง งดการซาวน่า การอบไอน้ำ และการอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปในช่วง 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  3. ห้ามออกกำลังกายหนัก ควรงดกิจกรรมที่เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เช่น การออกกำลังกายหนักในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดการเกิดอาการบวม
  4. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อาจทำให้ริมฝีปากเกิดการระคายเคืองและบวมมากขึ้น ควรงดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  5. ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ระคายเคือง หลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกหรือลิปบาล์มที่มีสารเคมีแรงในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคือง

ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันถึงจะทาลิปได้

หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรรออย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง ก่อนเริ่มทาลิปสติกหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ บนริมฝีปาก เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือระคายเคือง ควรเลือกใช้ลิปสติกหรือลิปบาล์มที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์หรือพาราเบน และหมั่นรักษาความสะอาดบริเวณริมฝีปากเสมอ การดูแลที่เหมาะสมช่วยเสริมให้ริมฝีปากฟื้นตัวได้ดีและสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นก้อน เกิดจากอะไร? แก้ไขได้ไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเกิดอาการเป็นก้อน อาจมีสาเหตุมาจาก การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ฟิลเลอร์ที่มีความหนืดสูงเกินไป หรือ เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง เช่น ฉีดในปริมาณมากเกินไปหรือกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ อาจเกิดจาก ปฏิกิริยาของร่างกาย ที่มีการสะสมน้ำในบริเวณฉีด

สามารถแก้ไขได้ โดยสำหรับการแก้ไข หากเป็นก้อนจากฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) สามารถฉีด เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส เพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ หรือหากเกิดจากการอักเสบ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการประเมินและรักษาอย่างเหมาะสม การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่แรกครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในระหว่างขั้นตอน ซึ่งเกิดจากการใช้เข็มหรือการแทรกฟิลเลอร์เข้าสู่ผิว อย่างไรก็ตาม ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์จะใช้ ยาชาเฉพาะที่ หรือฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด ทำให้ขั้นตอนนี้เป็นไปอย่างสบายใจ และหลังการฉีด อาจมีอาการบวมเล็กน้อยหรือรู้สึกตึงบริเวณริมฝีปาก ซึ่งจะค่อยๆ หายไปภายในไม่กี่วันครับ

ฟิลเลอร์ปากห้ามจูบกี่วัน ?

หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการจูบหรือการกดบริเวณริมฝีปากอย่างน้อย 48 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวและลดความเสี่ยงของการเคลื่อนตัวของสารเติมเต็ม การจูบที่มีแรงกดอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่สม่ำเสมอและส่งผลต่อรูปทรงปากที่ปรับแต่งมา แนะนำให้รอประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ผลลัพธ์เข้าที่สมบูรณ์ ก่อนจะกลับมาจูบได้ตามปกติ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อคำแนะนำเฉพาะบุคคลครับ

ฉีดฟิลเลอร์เม้มปากได้ไหม ?

หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเม้มปากหรือการกดริมฝีปากอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวในชั้นผิวได้อย่างเหมาะสม การเม้มปากหรือใช้แรงกดอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ส่งผลต่อรูปทรงปากที่ฉีดมา เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และรอจนฟิลเลอร์เข้าที่เต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ ก่อนทำกิจกรรมที่ใช้แรงกับริมฝีปากครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ TBL Clinic ดีอย่างไร ?

TBL Clinic โดดเด่นในด้านการให้บริการฉีดฟิลเลอร์ปาก ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงและผ่านการอบรมเฉพาะทาง เทคนิคการฉีดของเราเน้นความแม่นยำและความปลอดภัย โดยแพทย์จะประเมินรูปปากและโครงหน้าอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล

คลินิกเลือกใช้ ฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่านการรับรองจากอย. เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย นอกจากนี้ เรายังใส่ใจในขั้นตอนการดูแลก่อนและหลังการฉีด รวมถึงให้คำแนะนำอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้รับบริการได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาปากบาง ปากไม่สมดุล หรือเพิ่มความอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ปากที่ TBL Clinic ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยสร้างความมั่นใจ พร้อมผลลัพธ์ที่ประทับใจในทุกมิติแน่นอนครับ หากสนใจในการฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถขอคำปรึกษาจากหมอได้โดยตรงได้เลยครับ แอดไลน์สอบถามได้เลย !!

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปากที่ TBL Clinic