เลเซอร์ขน คืออะไร เลือกแบบไหนดี ? ไขข้อข้องใจเรื่องเลเซอร์กําจัดขน

โปรแกรมเลเซอร์ขน

หัวข้อ

ใครที่กำลังมีแผนจะทำเลเซอร์ขน บอกเลยว่าห้ามพลาดบทความนี้!

เลเซอร์ขน” นับเป็นวิธีการกำจัดขนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยประสิทธิภาพในการกำจัดขนไม่พึงประสงค์ในตำแหน่งต่างๆ เช่น เลเซอร์กําจัดขนหน้า รักแร้ แขน ขา หรือบริเวณบิกินี่ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาขนคุด ทำให้ผิวเรียบเนียน ดูสุขภาพดี สำหรับผู้ที่สนใจทำเลเซอร์ขนครั้งแรก อาจมีคำถามมากมาย เช่น เลเซอร์ขนมีกี่แบบ? แบบไหนเหมาะกับผิวของเรา? ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล? การเตรียมตัวก่อนและหลังทำควรทำอย่างไร? บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเรื่องเลเซอร์กําจัดขนทั้งหมดครับ

เลเซอร์ขนคืออะไร

เลเซอร์ขน คืออะไร ?

เลเซอร์กําจัดขน (Laser Hair Removal) เป็นหัตถการที่ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์ในการทำลายรากขน ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของขนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักการทำงานของเลเซอร์ขน คือ การยิงแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเข้าสู่รูขุมขน แสงเลเซอร์จะถูกดูดซึมโดยเมลานิน (Melanin) ในรากขน ทำให้เกิดความร้อนสูงจนสามารถทำลายรากขนและหยุดการสร้างขนใหม่ได้ เหตุผลที่การเลเซอร์ขนเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ไม่เพียงเพราะช่วยกำจัดขนได้อย่างล้ำลึกและยาวนาน แต่ยังช่วยลดปัญหาขนคุด ผิวหนังอักเสบ และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับวิธีการกำจัดขนแบบดั้งเดิม เช่น การโกน การแว็กซ์ หรือการถอนขน

ทั้งนี้เลเซอร์สำหรับกำจัดขนและเลเซอร์สำหรับปรับสภาพผิวจะใช้ความยาวคลื่นและระดับพลังงานที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การรักษาที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม บางเครื่องเลเซอร์สามารถปรับตั้งค่าให้ใช้งานได้ทั้งสองแบบ โดยการปรับความยาวคลื่นและพลังงานให้เหมาะสม ซึ่งในหัวข้อถัดไป หมอจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างและวิธีการปรับเครื่องเลเซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภทครับ

เลเซอร์ขน มีกี่แบบ ?

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ในปัจจุบัน มีการแบ่งประเภทที่นิยมใช้หลักๆ ออกเป็น 2 ประเภท คือ การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ชนิดต่างๆ และการกำจัดขนด้วยแสงเข้มข้น (IPL) ซึ่งมีหลักการทำงาน ความยาวคลื่น และจุดเด่นที่แตกต่างกันชัดเจน ดังนี้

  1. การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ (Laser Hair Removal) การกำจัดขนด้วยเลเซอร์เป็นการใช้ลำแสงเลเซอร์ความยาวคลื่นเดียว (Monochromatic) ยิงไปยังรากขนโดยตรง ทำลายเซลล์รากขนและเม็ดสีเมลานินอย่างแม่นยำ
    • หลักการทำงาน เลเซอร์ส่งพลังงานแสงไปยังรากขนโดยตรง เซลล์เม็ดสีเมลานินจะดูดซับแสงและเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ทำลายรากขนและยับยั้งการงอกใหม่อย่างถาวร
    • จุดเด่น เลเซอร์สามารถกำจัดขนถาวรได้ดี ให้ผลแม่นยำในพื้นที่เฉพาะ เช่น บิกินี่ รักแร้ และหนวด
    • ความยาวคลื่น 755 nm (Alexandrite), 800-810 nm (Diode), 1064 nm (Nd:YAG)
  1. การกำจัดขนด้วยแสงเข้มข้น (IPL – Intense Pulsed Light) IPL ไม่ใช่เลเซอร์โดยตรง แต่ใช้หลักการคล้ายคลึงกัน คือใช้แสงความเข้มข้นสูง แต่มีช่วงคลื่นกว้างกว่า (Broad-spectrum)
    • หลักการทำงาน ยิงพลังงานแสงที่กระจายช่วงคลื่นกว้าง (ประมาณ 500-1,200 nm) ลงบนผิวหนังโดยตรง แสงจะกระจายและเปลี่ยนเป็นความร้อนที่รากขน จึงช่วยกำจัดขนในพื้นที่กว้างได้รวดเร็ว
    • ความยาวคลื่น 500-1,200 nm ปรับได้ตามวัตถุประสงค์และสภาพผิว แต่พลังงานจะไม่เข้มข้นเท่าเลเซอร์
    • จุดเด่น เหมาะกับคนผิวขาว มีขนบางหรือสีอ่อน ราคาถูก เข้าถึงได้ง่าย ใช้กำจัดขนในบริเวณกว้าง เช่น แขน ขา หน้าอก หรือแผ่นหลัง

วิธีการกำจัดขนมีกี่แบบ ?

การกำจัดขนที่นิยมในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ การกำจัดขนแบบชั่วคราว และการกำจัดขนแบบถาวร โดยแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน 

กำจัดขนแบบชั่วคราว

วิธีนี้เน้นการกำจัดขนเฉพาะที่มองเห็นได้เท่านั้น โดยขนจะงอกกลับมาใหม่ภายในระยะเวลาอันสั้น วิธีที่นิยม ได้แก่ การถอน โกน แว็กซ์ หรือการใช้ครีมกำจัดขน ซึ่งสะดวก รวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายต่ำ แต่อาจเสี่ยงต่อการเกิดขนคุด ผิวหนังอักเสบ และขนที่ขึ้นใหม่อาจแข็งหรือหนากว่าเดิม

การกำจัดขนแบบถาวร

เป็นการใช้พลังงานจากเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อทำลายรากขน ทำให้ขนงอกใหม่ช้าลงหรือหยุดงอกได้ในระยะยาว มี 2 วิธีหลัก คือ

  • เลเซอร์กำจัดขน (Laser Hair Removal) ใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ (เช่น Diode laser 800-810 nm หรือ Alexandrite 755 nm) ส่งผ่านผิวหนังเพื่อทำลายรากขนอย่างแม่นยำ ได้ผลลัพธ์ดี รวดเร็ว และเป็นที่นิยมมากที่สุด
  • การจี้ไฟฟ้า (Electrolysis) ใช้กระแสไฟฟ้าหรือคลื่นวิทยุทำลายรากขนทีละเส้น แม้ใช้เวลานานกว่าเลเซอร์ แต่กำจัดขนได้ละเอียด และเหมาะกับเส้นขนบางๆ ที่เลเซอร์กำจัดยาก

กำจัดขนถาวรดีอย่างไร ?

การกำจัดขนแบบถาวร เป็นการทำลายรากขนโดยตรง จึงช่วยให้ขนหลุดและหยุดการเติบโตได้ในระยะยาว ต่างจากการถอน โกน หรือแว็กซ์ ซึ่งเป็นเพียงวิธีชั่วคราว การกำจัดขนแบบถาวรมีข้อดีหลายด้าน เช่น ลดปัญหาขนคุด ป้องกันการเกิดหนังไก่ และไม่ทำให้ผิวหนังเสียหายจากการเสียดสีหรือระคายเคืองซ้ำซ้อน วิธีนี้ยังลดความเสี่ยงการเกิดแผลหรืออาการอักเสบจากการถอนหรือแว็กซ์บ่อยครั้ง รวมทั้งช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียนอย่างสม่ำเสมออีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ใช่เพียงแค่เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจ และเป็นวิธีการดูแลผิวที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าในระยะยาวครับ

เลเซอร์ขนด้วยเครื่องอะไรได้บ้าง แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?

การเลือกเครื่องเลเซอร์กำจัดขนแต่ละชนิดมีผลต่อประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ และความเหมาะสมกับแต่ละสภาพผิวและขนดังนี้

  • เครื่อง Nd:YAG Laser ซึ่งมีความยาวคลื่น 1064 nm มีจุดเด่นในการกำจัดขนเส้นหนาและสีเข้มได้ดีมาก สามารถลงลึกถึงชั้นรากขนได้อย่างแม่นยำ จึงมีประสิทธิภาพดีในกลุ่มคนผิวเข้ม ผิวคล้ำ หรือมีปัญหาขนคุด แต่เนื่องจากพลังงานสูงอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะทำ ราคาค่อนข้างสูง แต่ให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและเห็นผลชัดเจน
  • Diode Laser มีความยาวคลื่นประมาณ 800-810 nm เป็นเครื่องยอดนิยมเพราะมีความปลอดภัยสูง เจ็บน้อย เหมาะกับผิวคนเอเชียทั่วไป สามารถทำงานได้รวดเร็ว จุดเด่นคือให้พลังงานคงที่และกระจายความร้อนได้ดี ทำให้เหมาะกับพื้นที่กว้างๆ อย่างแขน ขา หลัง หรือหน้าอก ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้
  • เครื่อง Alexandrite Laser มีความยาวคลื่นที่ 755 nm จุดเด่นอยู่ที่การดูดซับเม็ดสีเมลานินได้ดีมาก เหมาะกับขนสีเข้มบนผิวขาว สามารถกำจัดขนได้รวดเร็วและแม่นยำ ให้ผลลัพธ์ยาวนานและช่วยให้ผิวเรียบเนียน อย่างไรก็ตามราคาค่อนข้างสูง และไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีผิวคล้ำมาก
  • IPL (Intense Pulsed Light) ไม่ใช่เลเซอร์แต่เป็นแสงความเข้มสูงที่มีหลายช่วงคลื่น (500-1200 nm) มีจุดเด่นที่ราคาประหยัด ทำได้บ่อยครั้ง ไม่เจ็บมาก สามารถใช้ได้กับผิวที่มีสีขนอ่อนจนถึงเข้มปานกลาง แต่ผลลัพธ์มักไม่ถาวรเท่าเลเซอร์แท้ ต้องทำซ้ำบ่อยครั้ง และต้องอาศัยการดูแลผิวหลังทำมากกว่าแบบอื่น
  • AFT (Advanced Fluorescence Technology) เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาจาก IPL โดยการปล่อยพลังงานแสงที่สม่ำเสมอและมีการกรองคลื่นที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้ลดการระคายเคืองผิว เจ็บน้อยกว่า IPL และให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายหรือกลัวเจ็บ ราคาอยู่ในระดับกลางๆ
  • Home Laser Devices หรือเครื่องกำจัดขนสำหรับใช้ที่บ้าน มีจุดเด่นที่สะดวก ใช้งานง่าย ราคาประหยัดกว่าเข้าคลินิกมาก แต่พลังงานต่ำกว่าเครื่องมือแพทย์จึงต้องทำซ้ำบ่อยครั้งกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวและกำจัดขนด้วยตัวเองในระยะยาว ต้องใช้ความสม่ำเสมอจึงจะเห็นผลชัดเจน และไม่เหมาะกับขนสีอ่อนมากๆ

โดยสรุปแล้ว การเลือกชนิดของเลเซอร์ควรคำนึงถึงลักษณะของเส้นขน สีผิว ตำแหน่งที่ต้องการกำจัดขน และความสะดวกในการใช้งาน โดยในการเข้ารับบริการกำจัดขนด้วยเครื่องเลเซอร์ที่กล่าวมาโดยทั่วไปจะต้องต่อเนื่องทำ 5-8 ครั้งห่างกัน 1 เดือน / ครั้ง ซึ่งจำนวนครั้งจะไม่เท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับจำนวนและความหนาของเส้นขนหลังจากยิงเลเซอร์ขนครับ

เข้าใจถึงระยยการเกิดเส้นขน

ทำความเข้าใจกับระยะของเส้นขน ว่าเป็นยังไง ?

วงจรชีวิตของเส้นขนมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระยะหลัก ดังนี้

  • ระยะเติบโต (Anagen Phase) เป็นระยะที่เส้นขนเจริญเติบโตเต็มที่และยาวขึ้นอย่างต่อเนมื่อ ในช่วงนี้ รากขนจะมีสุขภาพแข็งแรงที่สุด ซึ่งปกติประมาณ 80-90% ของเส้นขนในร่างกายจะอยู่ในระยะนี้ โดยระยะนี้มีความสำคัญในการทำเลเซอร์กำจัดขนมากที่สุด เนื่องจากพลังงานเลเซอร์สามารถลงไปทำลายรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระยะเสื่อมสภาพ (Catagen Phase) เส้นขนจะหยุดการเจริญเติบโตและเริ่มหดสั้นลง รากขนจะค่อยๆ เสื่อมสภาพและแยกตัวออกจากแหล่งสารอาหารของร่างกาย โดยเส้นขนจะคงอยู่ในช่วงนี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนจะหลุดร่วงไปเอง
  • ระยะเส้นขนหลุดร่วง (Telogen Phase) เป็นระยะพักตัวที่รากขนจะหยุดการทำงานชั่วคราว เส้นขนเก่าจะหลุดร่วงและใช้เวลาประมาณ 5-6 สัปดาห์ ก่อนที่เส้นขนใหม่จะเริ่มงอกขึ้นอีกครั้ง โดยระยะเวลานี้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

เลเซอร์กำจัดขนขน ดีไหม ?

การเลเซอร์กำจัดขนเป็นวิธีที่แพทย์แนะนำและนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธ์ภาพสูงในการทำลายรากขนโดยตรง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขนใหม่ได้อย่างเห็นผลชัดเจนในระยะยาว ต่างจากการถอนหรือโกนที่ให้ผลเพียงระยะสั้น และยังเสี่ยงต่อปัญหาผิว เช่น ขนคุด ผิวหนังอักเสบ หรือผิวไม่เรียบเนียน การทำเลเซอร์ช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ดี ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และทำให้วงจรการงอกของขนช้าลงเรื่อยๆ ในแต่ละครั้งที่ทำ ส่งผลให้ขนขึ้นใหม่มีลักษณะบางลง และจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ 

อีกทั้งยังลดการเกิดรอยดำจากการระคายเคืองของผิวหนังในระยะยาว จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวเรียบเนียน ดูสะอาดตา และหมดกังวลเรื่องเส้นขนบริเวณที่ไม่พึงประสงค์ การเลเซอร์กำจัดขนจึงถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่คุณแน่นอนครับ

เลเซอร์ขนเหมาะกับใคร ?

การทำเลเซอร์กำจัดขนนั้นมีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยกับทุกสีผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวขาว ผิวสองสี หรือผิวคล้ำ แต่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมักจะพบในผู้ที่มีผิวขาวถึงผิวสองสี และมีเส้นขนสีเข้ม เนื่องจากเม็ดสีเมลานินในเส้นขนสามารถดูดซับพลังงานเลเซอร์ได้ดี ทำให้รากขนถูกทำลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่เส้นขนบาง ขนอ่อน หรือขนสีอ่อนมาก อาจตอบสนองต่อเลเซอร์ได้น้อยกว่า

กลุ่มคนที่ควรพิจารณาการทำเลเซอร์กำจัดขน ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาขนดกมากผิดปกติ (Hirsutism) ผู้ที่ต้องการลดการเกิดใหม่ของเส้นขนในระยะยาว หรือผู้ที่มีปัญหาผิวหนังระคายเคืองจากการโกน ถอน หรือแว็กซ์ขนบ่อยครั้ง

เลเซอร์ขน ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

การเลเซอร์กำจัดขนเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถทำได้ในหลายตำแหน่งของร่างกาย ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดปัญหาขนคุด และช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกสถานการณ์ มาดูกันว่าตำแหน่งไหนบ้างที่สามารถทำเลเซอร์ขนได้

  1. เลเซอร์ขนหน้า หรือขนบริเวณใบหน้า (Facial Hair Removal) การเลเซอร์ขนบริเวณใบหน้าเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาขนขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นขนแก้ม ขนจอน หรือขนเหนือริมฝีปาก ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ลดปัญหาขนคุดและการระคายเคืองจากการโกนบ่อยๆ
  2. เลเซอร์ไรผม (Hairline Laser) สำหรับผู้ที่มีไรผมไม่สม่ำเสมอหรือไรผมหนาเกินไป การทำเลเซอร์ในบริเวณนี้ช่วยให้แนวไรผมดูชัดเจนและเรียบร้อยขึ้น เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนและดูแลรักษาได้ง่ายขึ้น
  3. เลเซอร์ขนรักแร้ (Underarm Laser Hair Removal) เป็นตำแหน่งยอดนิยม เนื่องจากการเลเซอร์ขนรักแร้ไม่เพียงแค่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน แต่ยังช่วยลดกลิ่นตัวและปัญหาผิวคล้ำจากการโกนหรือถอนขนบ่อยๆ
  4. เลเซอร์ขนแขน (Arm Hair Removal) การเลเซอร์ขนแขนช่วยให้ผิวดูเนียนเรียบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนแขนหนาหรือขนแขนสีเข้ม ช่วยลดความถี่ในการโกนหรือแว็กซ์ และป้องกันการเกิดขนคุด
  5. เลเซอร์ขนขา (Leg Hair Removal) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ขาเรียบเนียนอยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้นเป็นประจำ ช่วยประหยัดเวลาในการดูแลขนขาและทำให้ผิวดูสวยงาม
  6. ลเซอร์ขนบิกินี่ (เลเซอร์ขนน้องสาว) (Bikini Line and Brazilian Laser) การเลเซอร์ขนในบริเวณบิกินี่หรือขนน้องสาว ช่วยลดการระคายเคืองจากการโกนขนในบริเวณที่บอบบาง และทำให้การสวมใส่ชุดว่ายน้ำมั่นใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาขนคุดและการติดเชื้อได้อีกด้วย
  7. เลเซอร์หนวดและเครา (Beard and Moustache Laser Removal) การเลเซอร์หนวดและเคราเหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการลดความถี่ในการโกนหนวด ช่วยลดการเกิดขนคุดและการระคายเคือง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีปัญหาสิวจากการโกนหนวด
  8. เลเซอร์ขนหน้าอก-หลัง-หน้าท้อง (Chest, Back, and Abdomen Hair Removal) การเลเซอร์ขนบริเวณหน้าอก หลัง และหน้าท้อง เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่ต้องการผิวเรียบเนียน โดยเฉพาะผู้ชายที่มีขนดกหนา การเลเซอร์ขนในบริเวณนี้ช่วยลดปัญหาการระคายเคืองจากการโกนหรือแว็กซ์ และช่วยให้ดูแลรักษาผิวได้ง่ายขึ้น
  9. เลเซอร์ขนคุด (Ingrown Hair Removal) สำหรับผู้ที่มีปัญหาขนคุด เลเซอร์ขนสามารถช่วยลดการเกิดขนคุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเลเซอร์จะช่วยทำลายรากขน ลดการเจริญเติบโตของขนใหม่ ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดการอักเสบหรือการระคายเคืองที่เกิดจากขนคุดได้เป็นอย่างดี

เลเซอร์ขนอันตรายไหม ?

การเลเซอร์ขนถือว่าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง หากทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และใช้เครื่องเลเซอร์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาหรือ FDA (Food and Drug Administration) ทั้งนี้หลักการทำงานของเลเซอร์ขนคือการใช้แสงเลเซอร์เข้มข้นส่งผ่านผิวหนังไปยังรากขน โดยเน้นทำลายเม็ดสีเมลานินในรูขุมขน ทำให้รากขนอ่อนแอและขนหลุดร่วงตามธรรมชาติ

แม้ว่าการเลเซอร์ขนจะมีความปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ผิวแดง ระคายเคือง หรือรู้สึกแสบร้อนเล็กน้อยหลังการทำ ซึ่งมักหายไปเองในระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผู้ที่ใช้ยาบางชนิด เช่น ยากลุ่ม Retinoids หรือยาที่ทำให้ผิวไวต่อแสง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการทำเลเซอร์ขน เพื่อประเมินความเหมาะสมและลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง

เลเซอร์ขนเสี่ยงโรคมะเร็งจริงไหม ?

การเลเซอร์ขนไม่ได้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากหลักการทำงานของเลเซอร์ขนคือการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง ทำงานโดยการส่งพลังงานแสงเข้าสู่เม็ดสีเมลานินในรากขน แปลงพลังงานแสงเป็นความร้อนเพื่อทำลายรากขน โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้างหรือชั้นผิวหนังลึก แสงเลเซอร์ที่ใช้ในกระบวนการกำจัดขนไม่ใช่แสงชนิดที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์หรือทำให้เซลล์กลายพันธุ์ ดังเช่นรังสี UV หรือรังสีจากการถ่ายภาพรังสีเอกซเรย์ ที่มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง

ผลข้างเคียงหลังเลเซอร์ขน มีอะไรบ้าง ?

การเลเซอร์ขนเป็นวิธีการกำจัดขนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็อาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำเลเซอร์ ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • ผิวแดงและระคายเคือง หลังการเลเซอร์ ขนผิวอาจเกิดอาการแดงและบวมเล็กน้อย โดยปกติจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมงถึง 1-2 วัน
  • รู้สึกร้อนหรือแสบร้อน อาจเกิดความรู้สึกคล้ายผิวไหม้แดด แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นหรือลูบด้วยเจลว่านหางจระเข้
  • ผิวลอกหรือเปลี่ยนสี ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวคล้ำ อาจเกิดการเปลี่ยนสีผิวชั่วคราว ทั้งในรูปแบบผิวขาวขึ้นหรือคล้ำลง
  • ขนคุด ในบางคนอาจเกิดขนคุดหลังทำเลเซอร์ แต่สามารถป้องกันได้โดยการสครับผิวอย่างอ่อนโยนหลังจากการทำเลเซอร์ขนประมาณ 1 สัปดาห์

ก่อนเลเซอร์ขนเตรียมตัวยังไง

ก่อนเลเซอร์ขนควรเตรียมตัวอย่างไร ?

การเตรียมตัวก่อนการเลเซอร์ขนอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์การกำจัดขนมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงได้ ดังนั้น คำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการเลเซอร์ขนมีดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการถอนหรือแว็กซ์ขน ประมาณ 4-6 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ เนื่องจากเลเซอร์ขนต้องการรากขนในการดูดซับพลังงานแสง การโกนขนเป็นวิธีเดียวที่สามารถทำได้ก่อนการเลเซอร์
  2. โกนขนบริเวณที่ต้องการเลเซอร์ ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการรักษา โดยโกนให้เรียบสนิทแต่ไม่ควรใช้วิธีอื่นที่ดึงรากขนออก
  3. หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ และควรทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป เพื่อลดความเสี่ยงของผิวไหม้หรือการระคายเคือง
  4. งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA และ Retinol ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการเลเซอร์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิว
  5. หลีกเลี่ยงการใช้สารหอมและน้ำหอม บริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์ในวันที่รับการรักษา เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรืออาการแพ้
  6. ปรึกษาแพทย์หากใช้ยาบางชนิด เช่น ยาที่ทำให้ผิวไวต่อแสง (Photosensitive Drugs) หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

ขั้นตอนการเลเซอร์ขน

การเลเซอร์ขนเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย ขั้นตอนการเลเซอร์ขนประกอบด้วยขั้นตอนหลักดังนี้

  1. เตรียมผิวก่อนเลเซอร์
    ก่อนเริ่มทำเลเซอร์ แพทย์จะทำความสะอาดผิวบริเวณที่ต้องการเลเซอร์ จากนั้นจะเล็มหรือโกนขนให้เหลือความยาวประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร เพื่อให้แสงเลเซอร์เข้าถึงรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. การตั้งค่าพลังงานและเตรียมเครื่องเลเซอร์
    แพทย์จะประเมินลักษณะของเส้นขน สีผิว และความหนาของขน เพื่อตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ให้เหมาะสม โดยเครื่องเลเซอร์บางชนิดสามารถปรับระดับความเข้มของแสงและพลังงานได้หลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
  3. กระบวนการเลเซอร์ขน
    ขณะทำเลเซอร์ แพทย์จะยิงแสงเลเซอร์ลงไปยังรูขุมขน ซึ่งแสงเลเซอร์จะถูกดูดซับโดยเม็ดสี (Melanin) ในรากขน ทำให้เกิดความร้อนที่ทำลายรากขนและหยุดการเจริญเติบโตของขนใหม่
  4. ระบบปกป้องผิวและลดความเจ็บปวด
    ในระหว่างการเลเซอร์ เครื่องเลเซอร์บางรุ่นจะมีระบบปล่อยความเย็นอัตโนมัติ หรือแพทย์อาจใช้เจลเย็นทาบริเวณผิว เพื่อปกป้องผิวชั้นบนจากความร้อน และช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ
  5. การดูแลหลังเลเซอร์ขน
    หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลผิว เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง ทาครีมกันแดดและครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการระคายเคืองและช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

ดูแลตัวเองหลังเลเซอร์ขน

วิธีดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์ขน

หลังการทำเลเซอร์ขน ผิวหนังอาจเกิดการระคายเคืองเล็กน้อยหรือมีรอยแดง ซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถหายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังทำเลเซอร์ขนจึงมีความสำคัญ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้รวดเร็วและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
    หลังทำเลเซอร์ขน ผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรงเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ หากจำเป็นควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป และใส่เสื้อผ้าปกปิดผิวเพื่อป้องกันรังสี UV
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน
    ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองของผิว
  3. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง
    งดการใช้สครับผิว ครีมผลัดเซลล์ผิว หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเข้มข้น เช่น กรด AHA หรือ BHA ในบริเวณที่ทำเลเซอร์ขน เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
  4. งดกิจกรรมที่ทำให้ผิวร้อนหรือเกิดเหงื่อ
    หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การซาวน่า หรือการแช่น้ำร้อน เพราะความร้อนอาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดผื่นได้
  5. อย่าแกะหรือถูผิวแรง ๆ
    หากมีขนหลุดออกมา ควรปล่อยให้ขนหลุดออกไปเอง ห้ามใช้วิธีถอนหรือโกน เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการอักเสบและเป็นรอยได้

เลเซอร์ขนที่ไหนดี ?

การเลือกสถานที่ทำเลเซอร์ขนควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพของการรักษา โดยควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

  • มาตรฐานความปลอดภัย ควรเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์ และมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง
  • ประสบการณ์ของแพทย์ การทำเลเซอร์ขนควรดำเนินการโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมให้คำแนะนำที่เหมาะสม
  • เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้ ควรเลือกคลินิกที่ใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีมาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก FDA หรือ CE และเหมาะสมกับสภาพผิวและสีขนของคุณ
  • รีวิวและผลลัพธ์จริง ศึกษารีวิวจากผู้ใช้บริการจริง และดูภาพก่อน-หลังการรักษาเพื่อประเมินผลลัพธ์

ราคาในการเลเซอร์ขน

เลเซอร์ขนราคาเท่าไหร่ ?

การทำเลเซอร์ขนที่ TBL Clinic มีราคาหลากหลายขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของบริเวณที่ต้องการกำจัดขน โดยเริ่มต้นเพียง 900 บาทต่อครั้ง สำหรับบริเวณขนาดเล็ก เช่น รักแร้หรือหนวด และ เริ่มต้นที่ 1,500 บาท สำหรับบริเวณขนาดใหญ่ เช่น ขาทั้งสองข้างหรือหลังเต็มพื้นที่ นอกจากนี้ TBL Clinic ยังมีโปรโมชั่นแบบแพ็กเกจที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ทั้งนี้ ราคาการทำเลเซอร์ขนอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ เช่น Diode Laser, Alexandrite Laser หรือ Nd:YAG Laser ซึ่งแต่ละเครื่องมีประสิทธิภาพและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของคลินิกก่อนเริ่มการรักษา เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด

รีวิวเลเซอร์ขน TBL Clinic