ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการด้านความงามที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์แต่ละประเภทมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับ ชนิดของฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด การดูแลหลังทำ และพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ในบทความนี้ หมอจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการคงอยู่ และวิธีดูแลตัวเองเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยครับ
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน อยู่ได้ถึงกี่เดือน ?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีเสริมความงามที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและไม่ต้องพักฟื้น อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์อยู่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และปัจจัยส่วนบุคคล โดยทั่วไปฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นประเภทที่นิยมใช้มากที่สุด สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของโมเลกุล เช่น
- ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ริมฝีปาก อยู่ได้ 6-12 เดือน
- ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เช่น ฟิลเลอร์ขมับ คาง อยู่ได้ 12-24 เดือน
นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การออกกำลังกายหนัก, การสูบบุหรี่ หรือการสัมผัสความร้อนสูง อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าปกติ ดังนั้น ควรดูแลผิวให้ชุ่มชื้นและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานกี่เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตา โดยทั่วไปอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้, การดูแลหลังฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้บริเวณใต้ตาควรเป็น เนื้อละเอียดและอุ้มน้ำได้ดี เช่น Juvederm Volbella, Restylane Eyelight หรือ Belotero Balance ซึ่งช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดความหมองคล้ำ และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ แต่ก็จะมีปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาสลายเร็วขึ้น ได้แก่ การใช้ชีวิตที่เผชิญความร้อนสูง หรือการขยี้ตาบ่อย
ฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานกี่เดือน
ฟิลเลอร์ปาก โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้, การดูแลหลังฉีด และพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับริมฝีปากควรมี เนื้อนิ่ม ยืดหยุ่นสูง และกระจายตัวได้ดี เช่น Juvederm Volbella, Restylane Kysse หรือ Belotero Lips เนื่องจากริมฝีปากเป็นบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น การพูดหรือรับประทานอาหาร ฟิลเลอร์อาจสลายเร็วขึ้น
ฟิลเลอร์คาง อยู่ได้นานกี่เดือน
ระยะเวลาของฟิลเลอร์คางขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และกระบวนการสลายของร่างกายโดยทั่วไป ฟิลเลอร์คางที่เป็น Hyaluronic Acid (HA) สามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ เช่น Juvederm Volux หรือ Restylane Lyft ซึ่งมีความคงตัวสูงและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ พฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น การเคี้ยวอาหาร การพูด หรือการสัมผัสคางบ่อยๆ อาจมีผลต่ออายุของฟิลเลอร์ได้
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นานกี่เดือน
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และปัจจัยส่วนบุคคล ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เช่น Juvederm Volift, Restylane Defyne หรือ Belotero Intense เหมาะสำหรับบริเวณร่องแก้ม เพราะสามารถเติมเต็มร่องลึกได้อย่างเรียบเนียนและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติแต่อย่างไรก็ตาม อายุของฟิลเลอร์อาจแตกต่างไปตามพฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น การเคลื่อนไหวของใบหน้า การสัมผัส หรือกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย
ฟิลเลอร์ขมับ อยู่ได้นานกี่เดือน
ฟิลเลอร์ขมับ สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และปัจจัยของแต่ละบุคคล ฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นและคงตัวสูง เช่น Juvederm Voluma, Restylane Lyft หรือ Belotero Volume เหมาะสำหรับขมับ เพราะช่วยเติมเต็มบริเวณที่ยุบตัวและเสริมมิติของใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยอายุของฟิลเลอร์อาจได้รับผลกระทบจาก อัตราการเผาผลาญของร่างกาย การดูแลหลังฉีด และกิจวัตรประจำวัน
ฟิลเลอร์หน้าผาก อยู่ได้นานกี่เดือน
ฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และปัจจัยเฉพาะบุคคล เช่น การเผาผลาญของร่างกายและพฤติกรรมหลังฉีด ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับหน้าผากมักเป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เช่น Juvederm Voluma, Restylane Lyft หรือ Belotero Volume ซึ่งช่วยปรับรูปหน้าผากให้โค้งมน ดูละมุน และลดริ้วรอย
ฟิลเลอร์แก้มส้ม อยู่ได้นานกี่เดือน
ฟิลเลอร์แก้มส้ม สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลหลังฉีด โดยฟิลเลอร์ที่ใช้มักเป็นชนิดที่มีความคงตัวสูงและช่วยพยุงโครงสร้างผิว เช่น Juvederm Voluma, Restylane Lyft และ Belotero Volume ซึ่งช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟู มีมิติ และยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ
เปรียบเทียบฟิลเลอร์แต่ละชนิดอยู่ได้นานแค่ไหน ?
ฟิลเลอร์แต่ละชนิดมีความคงตัวและระยะเวลาการสลายแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างโมเลกุลและตำแหน่งที่ฉีด บางชนิดอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ในขณะที่บางรุ่นสามารถคงอยู่ได้นาน ถึง 24 เดือน หมอจะพาทุกคนมาดูว่าฟิลเลอร์แต่ละชนิดนั้นอยู่ได้นานแค่ไหน มาดูกันเลย
Hyaluronic Acid Fillers
ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) มีระยะเวลาคงตัวเฉลี่ย 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับความหนืด (viscosity) และเทคโนโลยีการผลิต ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลหนาแน่นสูง เช่น Juvederm Voluma หรือ Restylane Lyft จะอยู่ได้นานขึ้นเนื่องจากโครงสร้างช่วยชะลอการสลายตามธรรมชาติ โดยเอนไซม์ Hyaluronidase ในร่างกายจะค่อยๆ ย่อยสลาย HA ทำให้ฟิลเลอร์ลดลงตามเวลา การดูแลที่ดีช่วยยืดอายุผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้นครับ
Calcium Hydroxylapatite Fillers
ฟิลเลอร์ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) เช่น Radiesse สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและการเผาผลาญของร่างกาย ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีโครงสร้างเป็นอนุภาคแคลเซียมขนาดเล็กในเจล ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง คอลลาเจนตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไป เจลจะสลายไปก่อน แต่อนุภาคแคลเซียมยังคงช่วยพยุงผิวและกระตุ้นการฟื้นฟู ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานขึ้นครับ
Poly-L-Lactic Acid Fillers
ฟิลเลอร์ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) เช่น Sculptra สามารถอยู่ได้นาน 2-3 ปี เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนตามธรรมชาติ ในชั้นผิว ไม่ใช่เพียงแค่เติมเต็มทันทีเหมือน Hyaluronic Acid ฟิลเลอร์ชนิดนี้ทำงานโดยการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นานขึ้น แม้ตัวสาร PLLA จะสลายไปในไม่กี่เดือน แต่ผลของการสร้างคอลลาเจนยังคงอยู่ได้ยาวนานครับ
Polymethylmethacrylate (PMMA) Fillers
ฟิลเลอร์ชนิด Polymethylmethacrylate (PMMA) เช่น Bellafill เป็นฟิลเลอร์กึ่งถาวรที่สามารถอยู่ได้นานกว่า 5 ปี หรือมากกว่านั้น โครงสร้างของ PMMA ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับในชั้นผิว ช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนตามธรรมชาติ อย่างถาวร ทำให้ผลลัพธ์มีความคงตัวและยาวนานกว่าฟิลเลอร์ประเภทอื่น แต่อย่างไรก็ตามควรได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง เนื่องจากไม่สามารถฉีดสลายได้ครับ
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน แต่ละยี่ห้ออยู่ได้กี่เดือน ?
ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่น และบริเวณที่ฉีด โดยทั่วไป ฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid) ที่ได้รับ อย. รับรอง จะมีอายุการใช้งาน 6 – 18 เดือน สาเหตุที่ระยะเวลาแตกต่างกัน มาจาก เทคโนโลยีการผลิต ปริมาณ HA และโครงสร้างโมเลกุล ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีความ แข็ง-นิ่ม ความยืดหยุ่น การกระจายตัว ค่าความอุ้มน้ำ และโครงสร้างการเชื่อมพันธะ ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เหมาะกับ การใช้งานในจุดที่แตกต่างกัน เช่น ฟิลเลอร์ที่แข็งเหมาะกับโครงสร้างใบหน้า ส่วนฟิลเลอร์เนื้อนิ่มเหมาะกับใต้ตาและริมฝีปากครับ
ฟิลเลอร์ Restylane อยู่ได้นานแค่ไหน ?
Restylane เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) จากสวีเดนที่ใช้เทคโนโลยี NASHA™ และ OBT™ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวและกระจายตัวได้ดี อายุของฟิลเลอร์ ขึ้นอยู่กับรุ่นและบริเวณที่ฉีด โดยทั่วไป อยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน โดยแต่ละรุ่นจะมีระยะเวลาอยู่ได้ดังนี้
- Restylane Vital Light อยู่ได้ 6-12 เดือน
- Restylane Perlane Lyft อยู่ได้ 12 เดือน
- Restylane Refyne อยู่ได้ 12 เดือน
- Restylane Classic อยู่ได้ 12 เดือน
- Restylane Volyme อยู่ได้ 18 เดือน
- Restylane Defyne อยู่ได้ 18 เดือน
- Restylane Vital อยู่ได้ 12 เดือน
- Restylane Kysse อยู่ได้ 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Juvederm อยู่ได้นานแค่ไหน ?
Juvederm เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) จากสหรัฐอเมริกา มี เทคโนโลยี Hylacross™ และ Vycross™ ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์ยืดหยุ่นดี ทนต่อการขยับ และกระจายตัวได้เรียบเนียน โดยทั่วไปอยู่ได้นาน 8 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้
- Juvederm Volite อยู่ได้นาน 8 – 12 เดือน
- Juvederm Ultraplus – อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volbella อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18 – 24 เดือน
ฟิลเลอร์ Definisse อยู่ได้นานแค่ไหน ?
Definisse เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) จาก ประเทศอิตาลี ผลิตโดย RELIFE Menarini Group ใช้ XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ทำให้โครงสร้าง HA เชื่อมกันเป็นร่างแห ช่วยยกพยุงผิวและปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- Definisse Core อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Definisse Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Definisse Touch อยู่ได้นาน 8 – 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Neuramis อยู่ได้นานแค่ไหน ?
Neuramis เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) จาก ประเทศเกาหลี ผลิตโดย Medytox และผ่านการรับรองจาก อย. ไทย ใช้เทคโนโลยี SHAPE™ Technology (Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhancement) ทำให้ฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง กระจายตัวดี และลดการเกิดก้อนแข็ง
- Neuramis Deep อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Neuramis Volume อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- Neuramis Lidocaine อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. อยู่ได้นานแค่ไหน ?
E.P.T.Q. เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) จาก ประเทศเกาหลี ผลิตโดย JETEMA ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และ KFDA ใช้เทคโนโลยี “Zero Endotoxin & BDDE Controlled” ควบคุมสิ่งเจือปนในระดับต่ำ ทำให้ฟิลเลอร์บริสุทธิ์และปลอดภัย
- E.P.T.Q. S100 อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
- E.P.T.Q. S300 อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
- E.P.T.Q. S500 อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
ฟิลเลอร์ Revolax อยู่ได้นานแค่ไหน ?
Revolax เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) จาก ประเทศเกาหลี ได้รับการรับรองจาก KFDA และ CE Mark มีความบริสุทธิ์สูง และใช้เทคโนโลยี Monophasic Cross-linked HA ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีโครงสร้างแข็งแรง ไม่ไหลย้อย
- Revolax Fine อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Revolax Deep อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- Revolax Sub-Q อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
เทคนิคการฉีดช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นจริงไหม ?
เทคนิคการฉีดมีผลอย่างมากต่อระยะเวลาการคงตัวของฟิลเลอร์ หากฉีดถูกชั้นผิวและใช้ปริมาณที่เหมาะสม ฟิลเลอร์จะกระจายตัวดีและยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น ได้แก่
- ชั้นผิวที่ฉีด ฟิลเลอร์ที่ฉีดในชั้นลึก เช่น กระดูกหรือใต้กล้ามเนื้อ จะอยู่ได้นานกว่าฉีดในชั้นตื้น
- เทคนิคการฉีด การใช้เทคนิค Linear Threading หรือ Fanning ทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวสม่ำเสมอ ลดการสลายตัวเร็ว
- การเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสม ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เช่น Juvederm Voluma หรือ Restylane Lyft จะอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม
- ความเชี่ยวชาญของแพทย์ แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์โครงหน้าและฉีดฟิลเลอร์ให้เข้ากับโครงสร้างของแต่ละบุคคลได้ดี
ดังนั้น เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องมีผลต่อ การกระจายตัวของฟิลเลอร์ และ อายุการใช้งาน ทำให้เทคนิคการฉีดนั้นมีผลที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นจริงครับ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์มีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของฟิลเลอร์ หากปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องจะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ การดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตรช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูและคงตัวได้นานขึ้น
- หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะใน 48 ชั่วโมงแรก เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่คงตัว หากได้รับแรงกดอาจทำให้เกิดการกระจายตัวผิดตำแหน่ง
- งดออกกำลังกายหนัก เพราะว่าการออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว เช่น วิ่งหรือเวทเทรนนิ่ง อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- เลี่ยงความร้อนและแสงแดดจัด ซาวน่า อบไอน้ำ และแสงแดดร้อนจัด อาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรใช้ครีมกันแดด SPF 50+ ปกป้องผิว
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ เพราะแอลกอฮอล์และนิโคตินทำให้เส้นเลือดหดตัว ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
ข้อควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ RF (Radio Frequency), HIFU, Ulthera ใน 2 สัปดาห์แรก เนื่องจากคลื่นพลังงานอาจกระตุ้นให้ฟิลเลอร์เสื่อมเร็วขึ้น
- งดนอนคว่ำหรือนอนตะแคงในช่วง 3-7 วันแรก เพื่อลดการกดทับบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดที่ทำให้ร่างกายบวมน้ำและอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์
สัญญาณที่บ่งบอกว่าฟิลเลอร์เริ่มสลาย
ฟิลเลอร์โดยเฉพาะชนิด Hyaluronic Acid (HA) จะค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งอายุการใช้งานโดยทั่วไปอยู่ที่ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ พื้นที่ฉีด และการดูแลหลังฉีด สัญญาณที่บ่งบอกว่าฟิลเลอร์เริ่มสลาย มีดังนี้
- วอลลุ่มลดลง ใบหน้ากลับไปสู่สภาพเดิม เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย บริเวณที่เคยอิ่มฟู เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือริมฝีปาก จะค่อยๆ คืนสู่สภาพเดิม ใบหน้าอาจดูมีริ้วรอยหรือขาดมิติขึ้น
- ความยืดหยุ่นของผิวลดลง เพราะว่าฟิลเลอร์ช่วยพยุงโครงสร้างผิวและเติมเต็มช่องว่าง เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย ผิวอาจสูญเสียความตึงกระชับ และมีร่องลึกมากขึ้น
- ร่องลึกกลับมาเด่นชัดขึ้น สำหรับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดร่องแก้ม ร่องใต้ตา หรือขมับ หากฟิลเลอร์เริ่มสลาย ร่องเหล่านี้จะกลับมาเด่นชัดขึ้น
- ผิวบริเวณที่ฉีดดูแห้งและขาดน้ำมากขึ้น เพราะว่า Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติดูดซับน้ำ เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย ผิวอาจดูแห้งขึ้นและสูญเสียความชุ่มชื้น
หากสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้และต้องการคงผลลัพธ์ไว้อย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มเพิ่มเติมครับ
ข้อดีและข้อเสียของฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นาน
ฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นานมักเป็นที่ต้องการของหลายๆ คนเนื่องจากช่วยลดความถี่ในการเติมฟิลเลอร์และคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์ประเภทนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีด
ข้อดีของฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นาน
- ลดความถี่ในการฉีด เพราะว่าฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นานช่วยให้ไม่ต้องเติมบ่อย ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและลดการสัมผัสผิวจากเข็มซ้ำๆ
- ให้ผลลัพธ์ที่มั่นคง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปรับโครงหน้าหรือเติมเต็มริ้วรอยแบบถาวร โดยไม่ต้องกังวลว่าฟิลเลอร์จะสลายเร็วเกินไป
- มีความคงตัวสูง ฟิลเลอร์ชนิดที่อยู่ได้นานมักมีโครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแรงและคงตัวดี ทำให้สามารถพยุงผิวและเติมเต็มร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสียของฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นาน
- หากเกิดปัญหา อาจแก้ไขได้ยาก ฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นาน เช่น PMMA หรือ Calcium Hydroxylapatite ไม่สามารถฉีดสลายได้เหมือน Hyaluronic Acid ทำให้หากมีผลข้างเคียงต้องใช้วิธีผ่าตัดแก้ไข
- ความยืดหยุ่นอาจน้อยกว่า ฟิลเลอร์ที่มีอายุการใช้งานนานมักมีความแข็งตัวสูง อาจไม่เหมาะกับบริเวณที่ต้องการการเคลื่อนไหวมาก เช่น ริมฝีปาก หรือใต้ตา
- อาจเกิดการจับตัวเป็นก้อนเมื่อเวลาผ่านไป ในบางกรณี ฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นานอาจมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสัมผัส หรือจับตัวเป็นก้อนหากฉีดผิดชั้นผิว