ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรรู้อะไรบ้าง ช่วยอะไร อันตรายไหม ใช้กี่ CC ใช้ยี่ห้อไหนดี ?

ฟิลเลอร์หน้าผาก

หัวข้อ

หน้าผากเป็นองค์ประกอบสำคัญของใบหน้าที่ช่วยสร้างความสมดุลและเสริมมิติให้ดูละมุนขึ้น การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถช่วยเติมเต็มหน้าผากที่แบนหรือยุบให้ได้รูป ลดริ้วรอย และเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น แต่การฉีดบริเวณนี้มีความซับซ้อนเนื่องจากเป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญ การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและแพทย์ที่มีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น ในบทความนี้ หมอจะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับฟิลเลอร์หน้าผาก ความปลอดภัย ปริมาณที่ควรใช้ ยี่ห้อที่แนะนำ และวิธีเตรียมตัวก่อน-หลังฉีด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ

ฟิลเลอร์หน้าผาก

ฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร ?

ฟิลเลอร์หน้าผากคือการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปบริเวณหน้าผากเพื่อปรับรูปทรงให้ได้สัดส่วน เติมเต็มความเว้าหรือยุบของหน้าผาก และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยฟิลเลอร์จะช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน ขาดมิติ หรือมีรอยบุ๋มจากโครงสร้างกระดูกหรืออายุที่เพิ่มขึ้น

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก?
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากช่วยเสริมโหงวเฮ้ง ทำให้หน้าดูละมุนและสมดุลขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดริ้วรอยแนวนอนที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อหน้าผาก ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและอ่อนกว่าวัย โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นวิธีที่ช่วย ปรับสมดุลโครงหน้า และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของหน้าผากโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) ที่ใช้สามารถเติมเต็มและปรับรูปทรงของหน้าผากให้ได้สัดส่วนมากขึ้น โดยมีประโยชน์หลักดังนี้

  • เติมเต็มหน้าผากแบนหรือเว้า สำหรับผู้ที่มีหน้าผากแบน ขาดมิติ หรือมีรอยบุ๋มจากโครงสร้างกระดูก ฟิลเลอร์ช่วยให้หน้าผากดูอิ่มขึ้นและได้สัดส่วนที่สมดุล
  • ลดริ้วรอยแนวนอนบนหน้าผาก ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกจากการแสดงสีหน้า ทำให้หน้าผากดูเรียบเนียนและลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการขยับกล้ามเนื้อ
  • ปรับรูปหน้าให้ดูละมุนขึ้น หน้าผากที่มีความนูนได้สัดส่วนช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้นโดยรวม ลดความแข็งของใบหน้า และทำให้ดูเด็กลง
  • เสริมโหงวเฮ้ง ตามศาสตร์จีนและโหงวเฮ้ง เชื่อว่าหน้าผากที่เต็มอิ่มช่วยส่งเสริมโชคลาภ ความมั่นคง และดึงดูดพลังบวก

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องผ่าตัด และสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำเลยครับ

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีหน้าผากแบนหรือบุ๋ม ทำให้ใบหน้าดูแข็งและขาดมิติ
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูละมุนขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม
  • ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณหน้าผากและต้องการลดเลือนรอยพับ
  • ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งตามศาสตร์จีน เพื่อความเฮงและเสริมความมั่นใจ

What does forehead filler injection help?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS การผ่าตัดเสริมหน้าผาก ต่างกันยังไง ?

การปรับรูปทรงหน้าผากสามารถทำได้ทั้ง การฉีดฟิลเลอร์ และ การผ่าตัดเสริมหน้าผาก ซึ่งแต่ละวิธีมีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของ กระบวนการทำ ผลลัพธ์ ระยะเวลาพักฟื้น และความเสี่ยง การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ ลักษณะปัญหา ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล โดยสามารถเปรียบเทียบได้ดังนี้

หัวข้อเปรียบเทียบ ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ผ่าตัดเสริมหน้าผาก
หลักการทำงาน เติมเต็มด้วย Hyaluronic Acid (HA) ช่วยเพิ่มความโค้งมนให้หน้าผาก วาง ซิลิโคนเสริมหน้าผาก หรือใช้ไขมันตัวเองเพื่อปรับโครงสร้างหน้าผาก
ระยะเวลาการเห็นผล เห็นผลทันทีหลังฉีด และเข้าที่สมบูรณ์ใน 7-14 วัน เห็นผลหลังผ่าตัด แต่ต้องรออาการบวมลดลง 1-3 เดือน
ความคงทน อยู่ได้นาน 8-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ ผลลัพธ์ถาวร แต่ซิลิโคนอาจต้องเปลี่ยนหากมีปัญหา
ความเสี่ยงและผลข้างเคียง อาจเกิดอาการบวมช้ำเล็กน้อย หรือฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหากฉีดผิดชั้นผิว เสี่ยงต่อแผลเป็น, ซิลิโคนเคลื่อนที่ หรือภาวะติดเชื้อจากการผ่าตัด
ค่าใช้จ่าย 10,000 – 50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์) 80,000 – 200,000 บาท (ขึ้นอยู่กับวัสดุและเทคนิคที่ใช้)

ควรเลือกแบบไหนดี ?

ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • ผู้ที่ต้องการ แก้ไขปัญหาหน้าผากแบน ร่องลึก หรือเว้า โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการ ปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีผลถาวร สามารถปรับแต่งได้
  • ผู้ที่ต้องการ พักฟื้นน้อย และไม่ต้องการเจ็บตัวจากการผ่าตัด

ควรเลือกผ่าตัดเสริมหน้าผาก

  • ผู้ที่มีปัญหา โครงสร้างกระดูกหน้าผากแบนหรือยุบตัวมาก ต้องการปรับเปลี่ยนถาวร
  • ผู้ที่ต้องการ ผลลัพธ์ระยะยาว และไม่ต้องการเติมฟิลเลอร์ซ้ำ
  • ผู้ที่พร้อมรับการผ่าตัดและสามารถพักฟื้นได้

สรุปแล้ว หากต้องการปรับรูปหน้าผากแบบ ปลอดภัย เห็นผลเร็ว และไม่ต้องพักฟื้น ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ แต่หากต้องการ ผลลัพธ์ที่ถาวรและเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าอย่างชัดเจน การผ่าตัดเสริมหน้าผากอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง

What does forehead filler injection help?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย หากดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. อย่างไรก็ตาม บริเวณหน้าผากเป็นจุดที่มี เส้นเลือดขนาดใหญ่และเส้นประสาทสำคัญ หากฉีดผิดตำแหน่งหรือใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด (Vascular Occlusion) ส่งผลให้เกิดผิวซีดขาว เนื้อตาย หรือรุนแรงที่สุดอาจส่งผลต่อการมองเห็น

เพื่อลดความเสี่ยง ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้ เทคนิคการฉีดที่ปลอดภัย เช่น การใช้ เข็มปลายทู่ (Cannula) และเลือก ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับบริเวณหน้าผาก ทั้งนี้ ควรเข้ารับการปรึกษาและติดตามผลกับแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คนไข้ต้องการได้ครับ

ทำไมบางคนที่ฉีดหน้าผากแล้ว เป็นก้อน เป็นคลื่น ไหลย้อย เกิดจากอะไร ?

ปัญหาฟิลเลอร์หน้าผากเป็นก้อน เป็นคลื่น หรือไหลย้อยเป็นปัญหาที่พบได้หากฉีดโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณหน้าผาก ซึ่งสามารถเกิดจากหลายสาเหตุหลัก ได้แก่

  • การเลือกใช้ฟิลเลอร์ผิดประเภท ฟิลเลอร์ที่มีความหนืดต่ำเกินไป หรือไม่มีโครงสร้างโมเลกุลที่เหมาะสม อาจไม่สามารถพยุงเนื้อเยื่อได้ดี ทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวผิดตำแหน่งและเกิดการไหลย้อยลงมาบริเวณคิ้วหรือเปลือกตา
  • ฉีดผิดชั้นผิว ฟิลเลอร์ที่ถูกฉีดในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป อาจทำให้เกิดลักษณะเป็นคลื่น หรือเป็นก้อนเห็นได้ชัดบนผิว ในขณะที่การฉีดลึกเกินไปอาจเสี่ยงต่อการอุดตันเส้นเลือด
  • ฉีดในปริมาณที่มากเกินไป การใช้ฟิลเลอร์มากเกินความจำเป็น อาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์กระจายตัวผิดรูป หรือเกิดแรงกดที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้หน้าผากดูนูนผิดธรรมชาติ
  • การกระจายตัวของฟิลเลอร์ไม่สม่ำเสมอ หากฉีดฟิลเลอร์โดยไม่มีการกระจายเนื้อสารที่เหมาะสม อาจทำให้บางจุดนูนเกินไปและบางจุดยุบตัว ส่งผลให้หน้าผากดูเป็นคลื่น
  • การกด นวด หรือออกแรงบริเวณหน้าผากหลังฉีด พฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งและเกิดเป็นก้อนหรือไหลย้อย
  •  การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีมาตรฐาน ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้รับการรับรองจาก อย. หรือฟิลเลอร์ปลอม อาจมีโมเลกุลที่ไม่คงตัว ทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนหรือไหลผิดรูป

วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหา

  • เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากต้องใช้เทคนิคที่แม่นยำและเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
  • ใช้ฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานและมีความหนืดเหมาะสม ควรใช้ฟิลเลอร์ประเภท High G’ หรือโมเลกุลหนาแน่นสูง เพื่อช่วยพยุงเนื้อเยื่อได้ดี
  • ฉีดในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ฉีดมากเกินไปในครั้งเดียว ควรประเมินโครงสร้างใบหน้าและฉีดทีละน้อยเพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
  • งดนวดหรือกดทับบริเวณหน้าผากหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการกดหรือขยับหน้าผากมากเกินไปในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกเพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวอย่างเหมาะสม

หากพบปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือไหลผิดตำแหน่ง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการฉีดสลายด้วย Hyaluronidase อย่างปลอดภัยและเหมาะสมได้เลยนะครับ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมานูนเกินไป สามารถแก้ไขได้หรือไม่ ?

หากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วมีลักษณะนูนเกินไป หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ สามารถแก้ไขได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ หากเป็น ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นฟิลเลอร์แท้ สามารถฉีด Hyaluronidase เพื่อสลายฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย และคืนสภาพผิวให้กลับมาใกล้เคียงเดิม

ในบางกรณีที่ฟิลเลอร์ไม่ได้กระจายตัวดี หรือถูกฉีดในชั้นที่ตื้นเกินไป อาจสามารถแก้ไขได้โดยการ นวดกระจายฟิลเลอร์ ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่หากเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ชนิดที่ไม่สามารถสลายได้ อาจต้องใช้วิธีผ่าตัดเพื่อนำออก

ดังนั้น หากเกิดปัญหาหน้าผากนูนเกินไปหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการประเมินและแก้ไขอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและสมดุลกับใบหน้ามากที่สุดครับ

ฟิลเลอร์หน้าผาก ยี่ห้อไหนดี ?

การเลือกฟิลเลอร์สำหรับฉีดหน้าผากเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม เป็นธรรมชาติ และปลอดภัย ฟิลเลอร์ที่ใช้ควรมีคุณสมบัติ เนื้อแน่น (High G’) ยืดหยุ่นดี และไม่ไหลย้อย เพื่อให้สามารถเติมเต็มพื้นที่หน้าผากได้อย่างเหมาะสม โดยฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในการฉีดหน้าผากมี 8 ยี่ห้อหลักที่ได้รับการยอมรับ ได้แก่

  1. Juvederm Voluma ฟิลเลอร์จาก Allergan (USA) มีเทคโนโลยี Vycross™ ทำให้โมเลกุลเชื่อมกันแน่น ลดการสลายตัวเร็ว มีความหนืดและความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการสร้างโครงสร้างหน้าผากให้ดูเรียบเนียน
  2. Restylane Lyft ฟิลเลอร์จาก Galderma (Sweden) มีเทคโนโลยี NASHA™ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์แน่น ไม่ไหลง่าย เหมาะกับการเติมเต็มหน้าผากที่ต้องการความยกกระชับและคงตัว
  3. Belotero Volume ฟิลเลอร์จาก Merz (Germany) มีเทคโนโลยี Cohesive Polydensified Matrix (CPM™) ช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวดี เนื้อฟิลเลอร์คงตัว ไม่จับตัวเป็นก้อน ทำให้หน้าผากดูเรียบเนียน
  4. Neuramis Volume ฟิลเลอร์จาก Medytox (Korea) ใช้เทคโนโลยี SHAPE™ ช่วยให้เนื้อสัมผัสแน่น และคงตัว เนื้อสัมผัสแน่นแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโครงสร้างหน้าผากที่ดูละมุน
  5. Revolax Sub-Q ฟิลเลอร์จาก Across (Korea) มีโครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแรง ช่วยคงรูปหน้าผากได้ดี เป็นฟิลเลอร์ที่มีความหนืดสูง เหมาะสำหรับการปรับโครงสร้างให้ดูสมดุล
  6. E.P.T.Q S500 ฟิลเลอร์จาก Jetema (Korea) มีโมเลกุลที่หนาแน่นและยืดหยุ่นดี ทำให้กระจายตัวสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเติมเต็มหน้าผากโดยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
  7. Definisse Core Filler ฟิลเลอร์จาก RELIFE (Italy) มีคุณสมบัติช่วยพยุงโครงสร้างผิวและลดความเสี่ยงในการไหลย้อย เนื้อสัมผัสแน่น และช่วยให้หน้าผากดูสมูทเป็นธรรมชาติ
  8. Neauvia Intense ฟิลเลอร์จาก MatexLab (Italy) มีความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid สูงที่สุดในตลาด ช่วยสร้างโครงสร้างหน้าผากที่แน่นกระชับ และลดความเสี่ยงของการเกิดก้อนหรือคลื่น

สรุปการเลือกฟิลเลอร์หน้าผาก

  •  ฟิลเลอร์ที่มี High G’ และ High Elasticity เหมาะสำหรับการฉีดหน้าผาก
  • ควรเลือกแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก TH-FDA, US-FDA และ CE
  • หากต้องการผลลัพธ์ที่คงตัวและดูเป็นธรรมชาติ Juvederm Voluma, Restylane Lyft และ Belotero Volume เป็นตัวเลือกที่แนะนำ
  • หากต้องการตัวเลือกที่มีคุณภาพดีแต่ราคาคุ้มค่า Neuramis Volume, Revolax Sub-Q และ E.P.T.Q S500 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

ฟิลเลอร์หน้าผาก อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ฟิลเลอร์หน้าผากไม่ได้เป็นการเสริมหน้าผากแบบถาวรครับ หลังฉีดแล้ว Hyaluronic Acid (HA) จะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ โดยไม่มีผลข้างเคียง ระยะเวลาขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้และการดูแลตัวเอง

โดยทั่วไป ฟิลเลอร์หน้าผากจะอยู่ได้นานใช้เวลาประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับความหนืดและโมเลกุลของฟิลเลอร์ เช่น Juvederm Voluma, Restylane Lyft หรือ Belotero Volume ที่มีความคงตัวสูง จะอยู่ได้นานกว่ารุ่นที่มีเนื้อสัมผัสนิ่มกว่า หากต้องการรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ สามารถ กลับมาฉีดซ้ำได้เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย ซึ่งช่วยคงความโค้งมนของหน้าผากให้ดูอิ่มฟูอย่างเป็นธรรมชาติครับ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 1 CC เพียงพอหรือไม่ ควรใช้กี่ CC ?

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดหน้าผากขึ้นอยู่กับ ระดับความลึกของหน้าผาก โครงสร้างใบหน้า และผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยทั่วไป 1 CC มักไม่เพียงพอ สำหรับการเติมเต็มหน้าผากให้ดูเรียบเนียนและมีมิติที่สมดุล ปริมาณฟิลเลอร์ที่แนะนำ ได้แก่

  • 2-4 CC สำหรับผู้ที่มีหน้าผากเรียบและต้องการเพิ่มความโค้งเล็กน้อย
  • 4-6 CC สำหรับผู้ที่มีหน้าผากแบนหรือยุบตัวจากอายุที่เพิ่มขึ้น
  • 6-8 CC สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมโครงสร้างและปรับสัดส่วนให้ดูสมดุลมากขึ้น

ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง และกระจายตัวของฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละบุคคลครับ

What does forehead filler injection help?

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นวิธีที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมดุล มีมิติ และเสริมความโค้งมนของหน้าผากได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน ขาดวอลลุ่ม หรือมีรอยบุ๋มจากอายุที่เพิ่มขึ้น ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ได้แก่

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ใช้เวลาทำไม่นาน การเตรียมตัวก่อนฉีดไม่ยุ่งยาก
  • เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
  • เห็นผลชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ เซ็ตตัวและกลมกลืนกับเนื้อเยื่อ
  • สามารถปรับแต่ง เพิ่ม-ลด ความนูน และออกแบบได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับโครงหน้า
  • หากใช้ฟิลเลอร์แท้อยู่ได้นาน 1 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อที่เลือกใช้
  • เมื่อฟิลเลอร์สลายหมด สามารถทยอยเติมใหม่ได้เรื่อยๆ ทำให้รักษาผลลัพธ์ได้ต่อเนื่อง

การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยเทคนิคและความเชี่ยวชาญของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย การเตรียมตัวก่อนและดูแลหลังฉีดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และทำให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้นานขึ้น

✅ การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • งดอาหารเสริมและยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา แอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน อย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อลดความเสี่ยงของรอยช้ำ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดการขยายตัวของเส้นเลือด ลดโอกาสเกิดอาการบวม
  • ดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฟื้นฟู
  • แจ้งโรคประจำตัวหรืออาการแพ้ล่วงหน้า เช่น แพ้ยาชา หรือมีปัญหาด้านหลอดเลือด ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีด
  • ล้างหน้าให้สะอาด และงดแต่งหน้าก่อนเข้ารับบริการ

✅ การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • หลีกเลี่ยงการกด นวด หรือสัมผัสหน้าผาก อย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัว
  • งดออกกำลังกายหนัก ซาวน่า และอบไอน้ำ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ ในช่วง 3-7 วันแรก เพื่อให้ฟิลเลอร์ติดแน่นและเข้าที่
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและคงสภาพได้นานขึ้น
  • งดแอลกอฮอล์และบุหรี่หลังฉีดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของอาการบวม

อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีอะไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการที่ปลอดภัยเมื่อดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม อาจมี อาการข้างเคียงชั่วคราว ที่เกิดขึ้นหลังฉีด ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อฟิลเลอร์ ได้แก่

อาการบวมและรอยช้ำ พบได้ในช่วง 1-3 วันแรกจากการใช้เข็มฉีดยา อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อฟิลเลอร์เริ่มเซ็ตตัว
ความรู้สึกตึงบริเวณหน้าผาก เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปเติมเต็มพื้นที่ อาการนี้มักลดลงภายใน 3-7 วัน
รอยแดงหรืออาการคันเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นจากปฏิกิริยาของผิวหนัง แต่จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน อาจเกิดขึ้นหากฟิลเลอร์กระจายตัวไม่ดี หรือฉีดในชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินการแก้ไข

อาการเหล่านี้มักเป็นเพียงชั่วคราว หากพบ อาการผิดปกติรุนแรง เช่น ปวดมาก บวมแดงนาน หรือการมองเห็นผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นครับ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เจ็บไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการที่มี ความเจ็บในระดับต่ำ เนื่องจากแพทย์จะใช้ ยาชาเฉพาะที่ ก่อนทำหัตถการ ช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีด นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ที่ใช้ยังมี สารลดความเจ็บปวด (Lidocaine) ผสมอยู่ ทำให้ระหว่างฉีดแทบไม่รู้สึกเจ็บ ซึ่งส่วนมากจะบอกว่าไม่เจ็บครับ อาจจะรู้สึกถึงตอนที่กำลังดันเนื้อฟิลเลอร์เข้าไปบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าแพทย์มีประสบการณ์ มือเบา ก็จะไม่รู้สึกเจ็บ อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน บางคนอาจรู้สึก ตึงหรือแน่นเล็กน้อย ขณะฟิลเลอร์กระจายตัวในชั้นผิว ซึ่งเป็นอาการปกติและจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมงครับ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกี่วันยุบ ?

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถเห็นผลได้ทันที แต่ในช่วง 1-3 วันแรก อาจมีอาการบวมเล็กน้อยจากการฉีด ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกาย โดยทั่วไป อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 3-7 วัน และฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่มากขึ้น ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์และดูเป็นธรรมชาติที่สุดมักเห็นได้ใน 14 วัน หลังฉีด ทั้งนี้ การเข้าที่ของฟิลเลอร์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ เทคนิคการฉีด และการดูแลหลังทำครับ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ TBL Clinic ดีอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการที่ต้องอาศัย ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะเป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญ การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญ TBL Clinic โดดเด่นด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ผ่านการอบรมเฉพาะด้านฟิลเลอร์ และใช้เทคนิค Personalized Injection Technique ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย

ใช้ฟิลเลอร์แท้ 100% ผ่านการรับรองจาก อย. และมาตรฐานสากล
เทคนิคฉีดเฉพาะบุคคล วิเคราะห์โครงหน้า ปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละคน
แพทย์มีประสบการณ์สูง เข้าใจโครงสร้างใบหน้า ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์กระจายตัวดี ไม่เป็นก้อน ไม่ไหลผิดตำแหน่ง
ติดตามผลหลังทำ ให้คำแนะนำการดูแลตัวเอง พร้อมการนัดติดตามผล

หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่เน้น คุณภาพ ความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ TBL Clinic คือตัวเลือกที่คุณสามารถไว้วางใจได้ครับ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก