โบท็อกปีกจมูก คืออะไร ช่วยลดจมูกบานได้จริงไหม ใช้กี่ยูนิต กี่วันเห็นผล ราคาเท่าไร ?

โบท็อกปีกจมูก ช่วยอะไร

หัวข้อ

โบท็อกปีกจมูก กำลังเป็นหัตถการที่ได้รับความสนใจในกลุ่มคนที่ต้องการลดขนาดปีกจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการฉีดสาร Botulinum Toxin A ในจุดที่แม่นยำ ทำให้กล้ามเนื้อบางมัดคลายตัว ส่งผลให้จมูกดูแคบลงอย่างเป็นธรรมชาติ แต่คำถามที่หลายคนยังสงสัยคือ ใช้กี่ยูนิต? เห็นผลเร็วแค่ไหน? และปลอดภัยจริงไหม? บทความนี้หมอจะมาอธิบายทุกประเด็นอย่างครบถ้วนครับ

โบท็อกปีกจมูก คืออะไร ?

โบท็อกปีกจมูก คือการฉีดสาร Botulinum Toxin A เข้าไปบริเวณปีกจมูกทั้งสองข้าง เพื่อคลายการทำงานของกล้ามเนื้อที่มีหน้าที่ขยายปีกจมูก ได้แก่ กล้ามเนื้อ Dilator Naris หรือที่เรียกว่า Alar Nasalis กล้ามเนื้อมัดนี้จะหดตัวเมื่อเราหายใจแรง ยิ้ม หรือแสดงสีหน้า ทำให้ปีกจมูกกางออกหรือดูกว้างมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว การฉีดโบท็อกจะช่วยลดแรงดึงของกล้ามเนื้อมัดนี้ ทำให้ปีกจมูกดูกระชับ แคบลง และได้รูปมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกว่าจมูกดูบานเวลายิ้มหรือถ่ายรูป โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยปรับสมดุลรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัยครับ

โบท็อกปีกจมูกช่วยอะไรบ้าง ?

โบท็อกปีกจมูก เป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้เรียวแคบลงอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดศัลยกรรม การฉีดโบท็อกในตำแหน่งนี้จะเน้นที่กล้ามเนื้อ Dilator naris หรือ Alar nasalis ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ทำให้ปีกจมูกกางออกเวลายิ้มหรือพูด โดยมีประโยชน์หลัก ๆ ดังนี้ครับ

  • ลดการกางของปีกจมูกขณะยิ้ม ช่วยให้รูปจมูกดูเล็กลงเวลาขยับใบหน้า ลดความกว้างของปีกจมูกในมุมด้านหน้า
  • ปรับสัดส่วนจมูกให้สมดุลกับใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีจมูกบานบริเวณปลายปีก
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล เป็นวิธีที่ปลอดภัย เจ็บน้อย ใช้เวลาทำน้อย และไม่ต้องพักฟื้น
  • ช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อยิ้มหรือถ่ายภาพ ใบหน้าดูสมส่วนขึ้นในทุกมุมมอง โดยเฉพาะเวลาถ่ายภาพระยะใกล้

โบท็อกซ์ปีกจมูก vs ตัดปีกจมูก เลือกแบบไหนดี ?

ข้อเปรียบเทียบ

โบท็อกซ์ปีกจมูก ตัดปีกจมูก

ลักษณะการทำ

ฉีดยากล้ามเนื้อที่ทำให้ปีกจมูกกาง

ผ่าตัดเพื่อตัดเนื้อปีกจมูกออกโดยตรง

เหมาะกับใคร

ผู้ที่มีปีกจมูกบานขณะยิ้ม

ผู้ที่มีปีกจมูกกว้างตลอดเวลา

ระยะเวลาพักฟื้น

ไม่ต้องพักฟื้น

มีระยะพักฟื้น 5–7 วัน

เห็นผลเร็วแค่ไหน

3–7 วันหลังฉีด

เห็นผลทันทีหลังแผลหาย

อยู่ได้นานเท่าไหร่

ประมาณ 3–6 เดือน

ถาวร

ความเสี่ยง ต่ำ เจ็บน้อย

เสี่ยงแผลเป็น บวม ช้ำ

สรุปแล้วถ้าต้องการลดปีกจมูกแบบไม่ถาวร เหมาะกับผู้ที่ยังไม่แน่ใจ โบท็อกซ์คือทางเลือกที่ปลอดภัยและไม่เจ็บครับ แต่หากปีกจมูกบานชัดแม้ไม่ยิ้ม และต้องการผลถาวร การผ่าตัดอาจตอบโจทย์มากกว่า โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทุกครั้งนะครับ

ลดปีกจมูกด้วยวิธีการฉีดโบท็อก ทำอย่างไร ?

การลดปีกจมูกด้วยโบท็อกเป็นหัตถการที่ปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกกว้างเวลาแสดงสีหน้า เช่น ขณะยิ้มหรือหัวเราะ โดยการฉีดโบท็อกจะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อ Dilator naris หรือ Alar nasalis ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ทำให้ปีกจมูกกางออก

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกปีกจมูกมีดังนี้

  1. ประเมินโครงสร้างจมูกโดยแพทย์ เพื่อดูว่าปีกจมูกบานจากกล้ามเนื้อหรือจากโครงสร้างกระดูก
  2. ทำความสะอาดผิวและทายาชา ลดความรู้สึกเจ็บก่อนฉีด
  3. แพทย์ฉีดโบท็อกในตำแหน่งเฉพาะ โดยทั่วไปใช้ประมาณ 2–4 ยูนิตต่อข้าง
  4. แนะนำการดูแลหลังฉีด หลีกเลี่ยงการจับหรือกดจมูกใน 4 ชม. แรก

โบท็อกรัดแกนจมูก คืออะไร ?

โบท็อกรัดแกนจมูก คือเทคนิคทางการแพทย์เพื่อปรับรูปทรงจมูกให้ดูเรียวและมีมิติมากขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม โดยการฉีด Botulinum Toxin A เข้าไปบริเวณข้างแกนจมูก เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ดึงจมูกออกด้านข้างคลายตัว ส่งผลให้แกนจมูกดูชิด กระชับ และเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

กลไกของโบท็อกจะช่วยลดแรงดึงของกล้ามเนื้อบางมัด เช่น levator labii superioris alaeque nasi ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ฐานจมูกกว้างออกเมื่อยิ้ม ช่วยให้โครงสร้างโดยรวมของจมูกดูสมส่วนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานจมูกกว้างแต่ไม่อยากทำศัลยกรรม หรือผู้ที่ต้องการปรับทรงจมูกให้เรียวขึ้นเล็กน้อยเพื่อความสมดุลของใบหน้า โดยสามารถเห็นผลได้ในระยะเวลาอันสั้นและไม่ต้องพักฟื้นครับ

โบท็อกปีกจมูกใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?

การเลือกยี่ห้อโบท็อกสำหรับฉีดบริเวณปีกจมูกถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากตำแหน่งนี้เป็นจุดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง การกระจายตัวของตัวยาจึงต้องพอดี ไม่กว้างเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการแสดงสีหน้าโดยรวมได้

ยี่ห้อที่นิยมใช้มีดังนี้

  • Allergan (USA) โดดเด่นในเรื่องความบริสุทธิ์และความคงตัวของโมเลกุล กระจายตัวยาแคบ ควบคุมได้แม่นยำ เหมาะสำหรับบริเวณเล็กอย่างปีกจมูก ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานกว่าแบรนด์อื่น
  • Dysport (UK) กระจายตัวยากว้างกว่าเล็กน้อย เหมาะกับเคสที่ต้องการลดปีกจมูกพร้อมกับเสริมความเรียวโดยรวม เห็นผลไวแต่ระยะเวลาการออกฤทธิ์อาจสั้นกว่า Allergan เล็กน้อย
  • Nabota (Korea) ให้ผลลัพธ์ไว ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นหรือฉีดเป็นประจำ สามารถคุมงบประมาณได้ดี ในขณะที่ยังได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

โบท็อกปีกจมูก ใช้กี่ยูนิต ?

การฉีดโบท็อกปีกจมูกโดยทั่วไปจะใช้ปริมาณอยู่ที่ประมาณ 4–10 ยูนิต ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า Dilator naris หรือ Alar nasalis ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ขยายปีกจมูกให้บานออกขณะหายใจหรือแสดงสีหน้า หากกล้ามเนื้อในบริเวณนี้มีแรงดึงมาก แพทย์อาจพิจารณาใช้ในปริมาณที่ใกล้เคียง 10 ยูนิตต่อข้าง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น แต่หากเป็นเพียงปีกจมูกที่กว้างเล็กน้อยหรือโครงสร้างไม่ซับซ้อน ปริมาณเพียง 4–6 ยูนิตก็เพียงพอ การใช้ปริมาณโบท็อกในตำแหน่งนี้จำเป็นต้องพิจารณาอย่างแม่นยำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงหรือรบกวนการแสดงออกทางสีหน้าครับ

โบท็อกปีกจมูกกี่วันเห็นผล ?

หลังการฉีดโบท็อกปีกจมูก ผู้รับบริการส่วนใหญ่มักจะเริ่มสังเกตเห็น ผลลัพธ์เบื้องต้นภายใน 3–7 วัน โดยกล้ามเนื้อบริเวณปีกจมูกจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลง ส่งผลให้จมูกดูแคบลงอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดจะปรากฏ ภายใน 14 วัน หลังฉีด แนะนำให้เข้ารับการ ติดตามผลกับแพทย์ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 เพื่อประเมินผลลัพธ์และปรับแต่งเพิ่มเติมหากจำเป็น ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการคงความสมดุลของรูปจมูก และเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์และปลอดภัยที่สุดครับ

ข้อดี – ข้อเสียโบท็อกซ์ปีกจมูก มีอะไรบ้าง ?

การฉีดโบท็อกปีกจมูกเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความกว้างของจมูกโดยไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็เช่นเดียวกับทุกหัตถการ มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาอย่างรอบด้านครับ

ข้อดีของโบท็อกปีกจมูก

  • ฉีดง่าย ใช้เวลาไม่นาน
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เกิดแผล
  • เห็นผลเร็วภายใน 1–2 สัปดาห์
  • ปรับรูปทรงจมูกให้แคบลงอย่างเป็นธรรมชาติ

ข้อจำกัดที่ควรทราบ

  • ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3–6 เดือน
  • ต้องฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์
  • เหมาะกับเคสที่ปีกจมูกบานจากกล้ามเนื้อ ไม่ใช่โครงสร้างกระดูก

ฉีดโบท็อกปีกจมูกเจ็บไหม ?

การฉีดโบท็อกปีกจมูกโดยทั่วไปแล้วเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ เนื่องจากใช้เข็มขนาดเล็กมากและฉีดเฉพาะจุด ทำให้รู้สึกคล้ายยุงกัดหรือจิ้มเบาๆ บริเวณผิวหนังเท่านั้น สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บ แพทย์มักมีการ ทายาชาหรือประคบเย็น ก่อนทำหัตถการ เพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายระหว่างฉีด

การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อก ทำยังไงบ้าง ?

การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและปลอดภัยมากที่สุด โดยมีแนวทางที่ควรปฏิบัติ ดังนี้ครับ

ก่อนฉีดโบท็อก

  • ✅ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • ✅ งดรับประทานยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือ NSAIDs
  • ✅ แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือเคยแพ้โบทูลินัม ท็อกซิน
  • ✅ พักผ่อนให้เพียงพอ และทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อย

หลังฉีดโบท็อก

  • ⛔ หลีกเลี่ยงการนวด ขยับ หรือจับบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง
  • ⛔ งดนอนราบในช่วง 4 ชั่วโมงแรก
  • ⛔ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความร้อน เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก หรืออาบน้ำร้อนจัด

ฉีดโบท็อกลดปีกจมูกอันตรายไหม ?

การฉีดโบท็อกเพื่อลดปีกจมูก ถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง หากดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากสาร Botulinum Toxin A ที่ใช้ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ว่าสามารถใช้เพื่อการลดการทำงานของกล้ามเนื้ออย่างปลอดภัย แต่ด้วยตำแหน่งที่ใกล้เส้นประสาทและหลอดเลือด การฉีดควรใช้เทคนิคที่แม่นยำ ซึ่งแพทย์เฉพาะทางจะสามารถควบคุมปริมาณและตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือไม่สมดุลได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

ฉีดโบท็อกปีกจมูกอยู่ได้นานแค่ไหน  ?

ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกบริเวณปีกจมูกมักจะอยู่ได้ประมาณ 3–6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อของโบท็อกที่ใช้ ปริมาณยูนิต และการตอบสนองของกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด เช่น หลีกเลี่ยงความร้อนจัด การนวดแรง หรือการออกแรงกล้ามเนื้อบ่อยเกินไป ก็สามารถช่วยยืดระยะเวลาการออกฤทธิ์ของโบท็อกให้ยาวนานขึ้นได้ หากต้องการรักษาผลลัพธ์ให้ต่อเนื่อง แนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการฉีดซ้ำอย่างเหมาะสมครับ

วิธีการดูแลรักษาให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น

เพื่อให้ผลลัพธ์ของโบท็อกอยู่ได้นานและคงประสิทธิภาพสูงสุด ควรหลีกเลี่ยง ความร้อนจัด เช่น ซาวน่า อาบน้ำร้อน หรือการออกกำลังกายหนักในช่วง 48 ชั่วโมงแรก รวมถึงงดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1-2 วันหลังฉีด เพราะอาจรบกวนการออกฤทธิ์ของตัวยาได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยง การนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด และใช้ชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และหลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งหรือกัดฟันแรง ๆ จะช่วยให้โบท็อกทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและยืดอายุผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้นครับ

โบท็อกปีกจมูกราคาเท่าไหร่ ?

 ราคาการฉีดโบท็อกเพื่อลดปีกจมูกนั้นแตกต่างกันไปตามยี่ห้อที่เลือกใช้และจำนวนยูนิตที่จำเป็นสำหรับแต่ละเคส โดยทั่วไปจะใช้ประมาณ 4–10 ยูนิต ต่อข้าง ซึ่งสามารถสรุปราคาโดยประมาณของแต่ละยี่ห้อได้ดังนี้ครับ 👇

  • Allergan (USA)  400–500 บาท/ยูนิต → เฉลี่ย 4,000–5,000 บาท
  • Dysport (UK) 150–200 บาท/ยูนิต → เฉลี่ย 1,500–2,000 บาท
    Nabota (Korea) 100–150 บาท/ยูนิต → เฉลี่ย 1,000–1,500 บาท

ราคานี้อาจแตกต่างกันตามโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก ที่ TBL Clinic มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้เริ่มต้น เพียง 1,290 บาท สำหรับโบท็อกลดปีกจมูกด้วยแบรนด์แท้ที่ได้รับการรับรอง พร้อมบริการประเมินและติดตามผลโดยแพทย์เฉพาะทางทุกเคส

ฉีดโบท็อกปีกจมูกที่ไหนดีและปลอดภัย

การฉีดโบท็อกปีกจมูกให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาตินั้น สิ่งสำคัญคือ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านความงาม เป็นผู้ประเมินและลงมือฉีดด้วยตัวเอง เพราะจุดปีกจมูกมีความซับซ้อนด้านกายวิภาค และต้องอาศัยเทคนิคที่แม่นยำในการกำหนดยูนิตและตำแหน่งการฉีด

ก่อนตัดสินใจ ควรตรวจสอบว่า

  • คลินิกนั้นมี ใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมาย
  • ใช้โบท็อกแท้ที่สามารถ ตรวจสอบแหล่งที่มา ได้
  • มี รีวิวจากผู้ใช้จริง ที่น่าเชื่อถือ
  • และควรมีระบบติดตามผลหลังฉีดเพื่อประเมินความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

ทำไมควรเลือก TBL Clinic สำหรับการฉีดโบท็อกปีกจมูก

การเลือกคลินิกที่มีความชำนาญเฉพาะทางถือเป็นหัวใจสำคัญของการฉีดโบท็อกบริเวณปีกจมูก ซึ่งเป็นจุดที่ต้องใช้เทคนิคอย่างแม่นยำ TBL Clinic จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านคุณภาพและความปลอดภัย คลินิกมี ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า ที่มีประสบการณ์สูง พร้อมวิเคราะห์โครงสร้างจมูกและกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคลอย่างละเอียดก่อนทำการฉีด

เราใช้ โบท็อกแท้ 100% จากแหล่งที่ได้รับการรับรองระดับสากล พร้อมมี ใบรับประกันยา ชัดเจนทุกเคส บริการของ TBL Clinic ยังโดดเด่นด้วย การให้คำปรึกษาแบบเฉพาะบุคคล, การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และบรรยากาศการให้บริการระดับพรีเมียม เพื่อให้ทุกขั้นตอนของคุณเป็นไปอย่างปลอดภัยและมั่นใจครับ