โบท็อกซ์เป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมในการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และแก้ปัญหากล้ามเนื้อเกร็ง โดยราคาของการฉีดโบท็อกซ์อาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ ปริมาณที่ใช้ และตำแหน่งที่ฉีด เช่น หน้าผาก หางตา หรือกราม นอกจากนี้ คลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคามีความแตกต่างกัน บทความนี้หมอจะพาไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับราคาของการฉีดโบท็อกซ์แต่ละจุด รวมถึงการเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุดครับ
ฉีดโบท็อก เริ่มต้นราคาเท่าไหร่ ?
ราคาของการฉีดโบท็อกซ์เริ่มต้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ใช้ ปริมาณยูนิตที่ฉีด และมาตรฐานของคลินิก โดยทั่วไป ราคาจะเริ่มต้นที่ 3,000 – 5,000 บาท สำหรับการฉีดบริเวณเล็ก เช่น ริ้วรอยหน้าผากหรือหางตา ส่วนการฉีดปรับรูปหน้าหรือกราม อาจเริ่มต้นที่ 6,000 – 15,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและคุ้มค่าครับ
ฉีดโบท็อก ราคาแพงไหม ?
ราคาของการฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้แพงจนสูงเกินเอื้อมครับ แต่มันจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ยี่ห้อ ปริมาณยูนิต และมาตรฐานของคลินิก โดยทั่วไป ราคาจะเริ่มต้นที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้าได้ครับ
ราคาโบท็อก แต่ละยี่ห้อ
หากใครที่ต้องการฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอย ปรับหน้าเรียว วันนี้ทาง TBL Clinic จะมาขอแนะนำสำหรับราคาโบท็อกแต่ละยี่ห้อนั้นว่ามีราคาเท่าไหร่บ้าง โดยเรารวบรวมราคาของแต่ละยี่ห้อไว้ที่นี่แล้ว มาดูกันว่ามีราคาเริ่มต้นตั้งแต่เท่าไหร่
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan
Allergan เป็นโบท็อกซ์สัญชาติอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูงและลดโอกาสการดื้อยา เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า ราคาสำหรับการฉีดในแต่ละจุดมีดังนี้:
- หางตา ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท
- ปีกจมูก/รัดแกนจมูก ราคาเริ่มต้นที่ 6,000 บาท
- ริ้วรอยเฉพาะจุด ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท
- ลดกราม/หน้าเรียว ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
- เหมาขวด ขนาด 50 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท; ขนาด 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 15,000 บาท
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Nabota
Nabota เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลี มีความบริสุทธิ์สูงและได้รับความนิยมในประเทศไทย ราคาสำหรับการฉีดในแต่ละจุดมีดังนี้:
- ริ้วรอยใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท
- ปีกจมูก/รัดแกนจมูก ราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท
- ริ้วรอย/ลิฟต์กรอบหน้า ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท
- รักแร้ ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
- เหมาขวด ขนาด 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 7,000 บาท
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Aestox
Aestox เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลี มีความบริสุทธิ์สูงและได้รับความนิยมในประเทศไทย ราคาสำหรับการฉีดในแต่ละจุดมีดังนี้:
- หางตา ราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท
- ปีกจมูก/รัดแกนจมูก ราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท
- ริ้วรอย/ลิฟต์กรอบหน้า ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท
- รักแร้ ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
- เหมาขวด ขนาด 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 7,000 บาท
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Dysport
Dysport เป็นโบท็อกซ์จากอังกฤษ มีความบริสุทธิ์สูงและได้รับความนิยมในประเทศไทย ราคาสำหรับการฉีดในแต่ละจุดมีดังนี้
- ลดกราม/หน้าเรียว ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 บาท
- ริ้วรอย ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 บาท
- ลดน่อง ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาท
- เหมาขวด ขนาด 300 ยูนิต (เทียบเท่ากับ 100 ยูนิตของยี่ห้ออื่น) ราคาเริ่มต้นที่ 18,000 บาท
โบท็อกซ์ยี่ห้อ Xeomin
Xeomin เป็นโบท็อกซ์จากเยอรมนี มีความบริสุทธิ์สูงและได้รับความนิยมในประเทศไทย ราคาสำหรับการฉีดในแต่ละจุดมีดังนี้
- หางตา ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท
- ปีกจมูก/รัดแกนจมูก ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท
- ริ้วรอย ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท
- ลดกราม ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
- รักแร้ ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
- เหมาขวด ขนาด 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 15,000 บาท
โปรดทราบว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาเริ่มต้นและอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณยูนิตที่ใช้และปัญหารูปหน้าของผู้เข้ารับบริการ การเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ควรพิจารณาจากความเหมาะสมกับปัญหาและงบประมาณของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกนะครับ
ฉีดโบท็อกซ์แต่ละจุดใช้กี่ยูนิต ราคาเท่าไหร่ ?
การฉีดโบท็อกซ์ในแต่ละจุดต้องใช้ปริมาณยูนิตที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ขนาดของกล้ามเนื้อ และความต้องการของผู้เข้ารับบริการ โดยแพทย์จะพิจารณาปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย มาดูกันว่าแต่ละตำแหน่งต้องใช้กี่ยูนิต และมีราคาประมาณเท่าไหร่
- โบท็อกหน้าผาก 10-20 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท
- โบท็อกระหว่างคิ้ว 5-15 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท
- โบท็อกหางตา 10-20 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท
- โบท็อกปีกจมูก / รัดแกนจมูก 15-20 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท
- โบท็อกลิฟต์กรอบหน้า 40-50 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 4,000 บาท
- โบท็อกลดกราม / ลดเหนียง 20-40 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท
- โบท็อกรักแร้ (ลดเหงื่อ) 80-100 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
- โบท็อกน่อง 100-200 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 15,000 บาท
หมายเหตุ ราคาที่ระบุเป็นราคาประมาณการ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่เลือกใช้ รวมถึงความต้องการในการปรับรูปหน้าของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์
หน้าบาน ริ้วรอยเต็ม เลือกฉีดโบท็อกดีไหม ?
สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องใบหน้าดูกว้างจากกล้ามเนื้อกรามเด่นชัด หรือมีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา ริ้วรอยหน้าผาก และร่องระหว่างคิ้ว การฉีดโบท็อกซ์อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โบท็อกซ์ลดกราม เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าดูบานจากกล้ามเนื้อบริเวณกรามที่แข็งแรง ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการเคี้ยวอาหารหรือกัดฟัน การฉีดโบท็อกซ์ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้กรอบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
โบท็อกซ์ลดริ้วรอย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก หางตา และร่องระหว่างคิ้ว ซึ่งช่วยลดการขยับของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยพับบนผิวหนัง
ฉีดโบท็อก ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ ที่ไหนดี ?
การเลือกสถานที่ฉีดโบท็อกซ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้รับ คลินิกที่ได้มาตรฐานควรมี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง หรือ แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกซ์โดยตรง ใช้โบท็อกซ์แท้ที่ผ่าน อย. และมีการให้คำปรึกษาก่อนฉีดเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
ที่ TBL Clinic เราเลือกใช้โบท็อกซ์ของแท้จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Allergan, Nabota, Dysport และ Xeomin ผ่านการรับรองจาก อย. แพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญในการออกแบบการฉีดเพื่อให้เหมาะสมกับโครงหน้าแต่ละบุคคล พร้อม การติดตามผลหลังฉีด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ
หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่มีมาตรฐานสูง พร้อมโบท็อกซ์แท้ในราคาสมเหตุสมผล TBL Clinic คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและความปลอดภัย
โบท็อกราคาถูกปลอดภัยไหม
โบท็อกซ์ราคาถูกอาจดึงดูดใจ แต่ต้องระมัดระวัง เนื่องจาก ต้นทุนของโบท็อกซ์แท้ที่ผ่าน อย. มีราคากลางที่ชัดเจน หากพบราคาถูกกว่ามาตรฐานมาก อาจเป็นสัญญาณของ ผลิตภัณฑ์ปลอม หรือโบท็อกซ์ที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ กล้ามเนื้อผิดรูป หรืออาการข้างเคียงร้ายแรง เช่น การติดเชื้อหรือเส้นประสาทถูกทำลาย
ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ ควร ตรวจสอบคลินิกและแพทย์ ว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ รวมถึงสอบถามแหล่งที่มาของโบท็อกซ์ หากคลินิกไม่สามารถแสดงหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับแบรนด์ หรือหมายเลขล็อตของผลิตภัณฑ์ ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัย