โบท็อกโหนกแก้ม คืออะไร เหมาะกับใคร เห็นผลจริงไหม ใช้กี่ยูนิต ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ ?

โบท็อกโหนกแก้ม คืออะไร

หัวข้อ

โบท็อกโหนกแก้ม กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่หลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มเด่น ทำให้ใบหน้าดูแข็ง หรือนูนชัดเวลาหันข้าง ซึ่งอาจทำให้ดูมีอายุหรือดูไม่ละมุน หลายคนสงสัยว่าแค่ฉีดโบท็อกจะช่วยลดโหนกแก้มได้จริงหรือ? ต้องใช้กี่ยูนิต? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ? บทความนี้หมอจะมาไขทุกคำถาม พร้อมคำแนะนำแบบละเอียด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุดครับ

โบท็อกโหนกแก้ม คืออะไร

โบท็อกโหนกแก้ม คืออะไร ?

โบท็อกโหนกแก้ม คือหัตถการที่ใช้การฉีดสาร สารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin A) เข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อ zygomaticus ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ทำให้โหนกแก้มดูเด่นขึ้น โดยเฉพาะเวลายิ้ม หากกล้ามเนื้อบริเวณนี้มีความแข็งแรงหรือหนาเกินไป อาจทำให้โหนกแก้มดูใหญ่เกินความพอดี จนทำให้รูปหน้าดูแข็งหรือมีอายุ เมื่อเราฉีดโบท็อกเข้าไป กล้ามเนื้อ zygomaticus จะคลายตัวและลดขนาดลง โหนกแก้มจึงดูเล็กลงได้ในมุมมองด้านหน้าและด้านข้าง ทำให้ใบหน้าดูเรียว ละมุน และสมส่วนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม โหนกแก้มจะยังคงเห็นได้บ้างเวลายิ้ม เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการแสดงอารมณ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและช่วยให้ผลลัพธ์ยังดูเป็นธรรมชาติ 

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม ได้ผลจริงไหม ?

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม ให้ผลลัพธ์ได้จริงครับ โดยเฉพาะในเคสที่โหนกแก้มเด่นจากกล้ามเนื้อ zygomaticus มากกว่ากระดูก เช่น คนที่ยิ้มแล้วโหนกแก้มยกสูงขึ้นชัด หรือมีลักษณะโหนกแก้มบานด้านข้างจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำๆ จากประสบการณ์คนไข้หลายรายที่เข้ามาฉีดโบท็อกโหนกแก้มกับผม พบว่าใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใน 2 สัปดาห์ โดยไม่กระทบต่อการแสดงสีหน้าแต่อย่างใดครับ แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน รวมถึงปริมาณยูนิตที่เหมาะสม และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกแท้จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุดครับ

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม เหมาะกับใครบ้าง ?

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะใบหน้าดังนี้ครับ

  • ผู้ที่มีโหนกแก้มเด่นเวลายิ้ม โดยเฉพาะกลุ่มที่กล้ามเนื้อ zygomaticus มีการทำงานมาก ทำให้โหนกแก้มดูนูนหรือกว้างขึ้นในขณะยิ้ม
  • ผู้ที่มีโหนกแก้มเด่นจากกล้ามเนื้อ ไม่ใช่กระดูก การฉีดโบท็อกจะช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้โหนกแก้มดูเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่อยากปรับรูปหน้าแต่ไม่ต้องการผ่าตัด เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องแผลหรือระยะเวลาพักฟื้นจากการทำศัลยกรรม
  • ผู้ที่ต้องการหน้าเรียวละมุนมากขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูซอฟต์ขึ้น ลดความเหลี่ยมของช่วงโหนกแก้มได้ดี

โบท็อกโหนกแก้ม ใช้กี่ยูนิต

โบท็อกลดโหนกแก้ม ใช้กี่ยูนิต ? ยี่ห้อไหนดี ?

โบท็อกลดโหนกแก้ม เป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่มีโหนกแก้มเด่นจากกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ zygomaticus ที่ทำงานมากเวลายิ้ม ซึ่งเป็นจุดที่สามารถใช้โบท็อกช่วยลดขนาดได้อย่างเห็นผลครับ

โบท็อกลดโหนกแก้ม ใช้กี่ยูนิต ?

  • โดยทั่วไป จะใช้ ประมาณ 20–30 ยูนิต (10–15 ยูนิตต่อข้าง)
  • ปริมาณที่ใช้จริงจะขึ้นอยู่กับ ความหนาและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ในแต่ละบุคคล
  • แนะนำให้ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินกล้ามเนื้อก่อนเลือกยูนิตที่เหมาะสมที่สุดครับ

โบท็อกลดโหนกแก้ม ยี่ห้อไหนดี ?

  1. Allergan (USA)
    • จุดเด่น โมเลกุลมีความคงตัวสูง กระจายตัวแคบ ควบคุมทิศทางได้แม่นยำ
    • เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์นุ่มนวล และอยู่นาน 4–6 เดือน
  2. Nabota (Korea)
    • จุดเด่น ออกฤทธิ์ไว ราคาประหยัด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
    • เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็วในงบที่คุ้มค่า อยู่ได้ประมาณ 3–5 เดือน
  3. Xeomin (Germany)
    • จุดเด่น ไม่มีโปรตีนเจือปน ลดความเสี่ยงดื้อยา เหมาะสำหรับผู้ที่ฉีดเป็นประจำ
    • เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและปลอดภัยในระยะยาว

โบท็อกโหนกแก้ม กี่วันเห็นผล

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม กี่วันเห็นผล ?

หลังจากฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มแล้ว ผลลัพธ์จะไม่ได้เห็นทันทีนะครับ เพราะตัวยาจะค่อย ๆ ออกฤทธิ์ โดยทั่วไปผู้รับบริการจะเริ่มเห็น ผลเบื้องต้นภายใน 7–14 วัน และผลลัพธ์จะ ชัดเจนมากที่สุดในช่วงประมาณ 1 เดือน หลังฉีด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยิ้ม กล้ามเนื้อ zygomaticus ที่ถูกคลายตัวจะทำให้โหนกแก้มดูละมุนและไม่เด่นชัดเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการเห็นผลอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น

  • ขนาดกล้ามเนื้อ และ แรงหดตัว ของแต่ละบุคคล
  • ยี่ห้อของโบท็อก ที่เลือกใช้
  • พฤติกรรมหลังฉีด เช่น การพักผ่อน การดื่มน้ำ หรือการหลีกเลี่ยงความร้อนจัด

การติดตามผลกับแพทย์หลังฉีดจะช่วยประเมินความเปลี่ยนแปลง และปรับแผนการรักษาให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดครับ

ข้อดี- ข้อเสียฉีดโบท็อกโหนกแก้ม

การฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มถือเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูละมุน เรียวลง โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาร่วมด้วยครับ

ข้อดีของการฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำ
  • เห็นผลเร็ว เริ่มสังเกตความเปลี่ยนแปลงได้ใน 7–14 วัน และผลชัดใน 1 เดือน
  • ลดขนาดกล้ามเนื้อ zygomaticus ทำให้โหนกแก้มดูไม่เด่นเวลาแสดงสีหน้า โดยเฉพาะเวลายิ้ม
  • หน้าดูละมุนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกว่าโหนกแก้มทำให้หน้าดูแข็งหรือเหลี่ยมเกินไป

ข้อจำกัดที่ควรรู้

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร อยู่ได้ประมาณ 3–6 เดือน ต้องฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์
  • ไม่เหมาะกับโหนกที่มาจากกระดูก หากโหนกแก้มยื่นจากโครงกระดูกมาก อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วม
  • ผลลัพธ์ขึ้นกับประสบการณ์แพทย์ ตำแหน่งและปริมาณที่ฉีดมีผลต่อความเป็นธรรมชาติของรูปหน้า

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม อันตรายไหม ?

โดยทั่วไป การฉีดโบท็อกเพื่อลดโหนกแก้มถือว่า ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้โบท็อกของแท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ตำแหน่งของกล้ามเนื้อ zygomaticus ที่ฉีดนั้น ต้องอาศัยความแม่นยำ เพราะอยู่ใกล้กับกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม หากฉีดผิดจุด อาจทำให้รอยยิ้มดูแข็งหรือไม่สมดุลได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดเฉพาะจุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย ดูเป็นธรรมชาติ และไม่กระทบต่อการแสดงสีหน้าครับ

วิธีลดโหนกแก้ม มีอะไรบ้าง ?

นอกจากการฉีดโบท็อกแล้ว การลดโหนกแก้มยังมีอีกหลายวิธีให้เลือก ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโหนกแก้มที่เด่น และความต้องการของคนไข้ครับ โดยสามารถแบ่งวิธีออกได้เป็น 5 กลุ่มหลักๆ ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์ลดโหนกแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้ลดขนาดโหนกแก้มโดยตรง แต่ช่วย “อำพราง” ความโดดเด่นของโหนกแก้ม ด้วยการเติมเต็มบริเวณข้างแก้มหรือใต้ตาให้สมดุล ส่งผลให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น ไม่เหลี่ยมหรือแข็งเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีโหนกแก้มสูงจากโครงสร้างกระดูก แต่ไม่ต้องการผ่าตัด ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คือ เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว และสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด อีกทั้งยังสามารถปรับตามสัดส่วนที่ต้องการได้แบบเฉพาะบุคคล

ฉีดไขมันลดโหนกแก้ม

การฉีดไขมันลดโหนกแก้ม คือการนำไขมันจากร่างกายของคนไข้เอง (เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นขา) มาผ่านกระบวนการแยกและทำให้บริสุทธิ์ แล้วฉีดกลับเข้าไปยังบริเวณใบหน้าที่ต้องการปรับรูป เช่น ข้างแก้มหรือใต้ตา เพื่อช่วยลดความเด่นของโหนกแก้ม และเพิ่มความสมดุลให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น ข้อดีคือให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่มีสารแปลกปลอม และสามารถเติมซ้ำได้หากต้องการ แต่อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดคือ ขั้นตอนนี้ต้องมีการดูดไขมันก่อน และผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับอัตราการดูดซึมไขมันของร่างกาย หากดูแลดี ไขมันที่อยู่รอดสามารถคงอยู่ได้นานหลายปีครับ

ฉีดเมโสแฟต สลายไขมันลดโหนกแก้ม

การฉีดเมโสแฟตบริเวณโหนกแก้ม เป็นหัตถการที่ช่วยสลายไขมันสะสมเฉพาะจุด โดยตัวยาจะเข้าไปกระตุ้นการแตกตัวของเซลล์ไขมันในบริเวณที่ฉีด ทำให้โหนกแก้มดูเล็กลง ใบหน้าดูเรียวและได้รูปมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ข้อดีของเมโสแฟตคือ เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลไวภายใน 1–2 สัปดาห์ แต่ข้อจำกัดคืออาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลชัดเจน โดยทั่วไปแนะนำประมาณ 3–5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน

ร้อยไหมยกกระชับ ลดโหนกแก้ม

การร้อยไหมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าและลดความเด่นของโหนกแก้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไหมละลายที่ร้อยเข้าไปใต้ผิวจะทำหน้าที่ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้โหนกแก้มดูนุ่มนวลลง ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น ข้อดีของการร้อยไหมคือ เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เช่น อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือรู้สึกตึงในช่วงแรก ซึ่งจะดีขึ้นในไม่กี่วัน การร้อยไหมเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มเด่นร่วมกับผิวหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อย และต้องการปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่พึ่งการศัลยกรรมครับ

ผ่าตัดกระดูกลดโหนกแก้ม/ ผ่าตัดกรอกระดูก

การผ่าตัดลดโหนกแก้มหรือที่หลายคนเรียกว่า “ผ่าตัดกรอกระดูก” เป็นหัตถการทางศัลยกรรมที่ช่วยปรับลดขนาดกระดูกโหนกแก้มโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้าอย่างถาวร โดยศัลยแพทย์จะเปิดแผลภายในช่องปากหรือไรผม จากนั้นปรับตำแหน่งหรือตัดแต่งกระดูกโหนกแก้มให้เล็กลง ข้อดีคือให้ผลลัพธ์ถาวร ใบหน้าเรียวลงชัดเจน แต่ก็มีข้อควรพิจารณา เช่น ต้องดมยาสลบ มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด เช่น บวม ช้ำ เส้นประสาทกระทบกระเทือน และต้องพักฟื้นหลายสัปดาห์

Hifu / Ulthera /  Thermage ลดโหนกแก้ม

การใช้เทคโนโลยียกกระชับอย่าง Hifu, Ulthera หรือ Thermage ถือเป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด สำหรับผู้ที่ต้องการลดความโดดเด่นของโหนกแก้ม โดยอาศัยคลื่นพลังงานที่ลงลึกถึงชั้นผิวหรือชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยสลายไขมันบางส่วนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวแน่นขึ้น โหนกแก้มจึงดูเล็กลงและหน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ไม่ได้ถาวร จึงอาจต้องทำซ้ำทุก 6–12 เดือน

การเตรียมตัวก่อน – หลังฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม

การฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม เป็นหัตถการที่ช่วยลดความนูนของกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้มอย่างปลอดภัย แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้รับบริการควรเตรียมตัวให้เหมาะสมทั้งก่อนและหลังฉีดครับ

ก่อนฉีดโบท็อก

  • ควรงดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา และแอลกอฮอล์ ประมาณ 3–7 วัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และหากมีโรคประจำตัวหรือเคยแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้า

หลังฉีดโบท็อก

  • หลีกเลี่ยงการจับ นวด หรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก
  • งดออกกำลังกายหนัก งดซาวน่า หรืออบไอน้ำอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • ควรดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่

โบท็อกซ์โหนกแก้ม ราคาเท่าไร ?

ราคาการฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกและจำนวนยูนิตที่ใช้ โดยทั่วไปจะใช้ประมาณ 20–30 ยูนิตต่อข้าง หรือ 40–60 ยูนิตต่อเคส ซึ่งราคาจะเริ่มต้นที่ ประมาณ 3,500 – 9,000 บาท ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม เช่น Allergan (USA), Xeomin (Germany) หรือ Nabota (Korea) ก็จะมีช่วงราคาที่แตกต่างกัน โดยโบท็อกแบรนด์แท้จากสหรัฐอเมริกาอาจราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและอยู่ได้นานกว่า

โปรโมชั่นฉีดโบท็อกโหนกแก้มที่ TBL Clinic

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มในราคาคุ้มค่า TBL Clinic ขอนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษที่ใช้ โบท็อกแท้ 100% จากยี่ห้อชั้นนำ เช่น Nabota หรือ Allergan พร้อมดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านปรับรูปหน้าโดยตรง ในราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียง 1,490 บาท เท่านั้น นอกจากนี้ เรายังมีบริการประเมินรูปหน้าฟรี พร้อมแนะนำแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคลอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณมั่นใจในผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติที่สุด

จองคิววันนี้ รับสิทธิ์ตรวจประเมินฟรี! สอบถามเพิ่มเติมหรือจองผ่าน LINE: @TBLClinic

ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มที่ไหนดี ?

การเลือกสถานที่ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้มถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของผลลัพธ์ที่สวยและปลอดภัยครับ เพราะบริเวณโหนกแก้มต้องอาศัยเทคนิคที่แม่นยำและเข้าใจลักษณะกล้ามเนื้อเฉพาะบุคคล โดยจะแนะนำให้เลือกคลินิกที่มีแพทย์เฉพาะทางด้านปรับรูปหน้า เป็นผู้ประเมินและฉีดด้วยตนเอง รวมถึงใช้ โบท็อกแท้ที่ผ่าน อย. ไทย มีการตรวจสอบเลขล็อตผลิตภัณฑ์ได้จริง อีกทั้งควรพิจารณารีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่ครบทั้งมาตรฐาน ความชำนาญ และความใส่ใจในทุกขั้นตอน TBL Clinic คือหนึ่งในทางเลือกที่น่าไว้วางใจครับ